ดูหนังออนไลน์
ค้นหาหนัง

The Old Guard ดิ โอลด์ การ์ด (2020) [ บรรยายไทย ]

The Old Guard ดิ โอลด์ การ์ด (2020) บรรยายไทย เต็มเรื่อง
Youtube Video

หมวดหมู่ : หนังแอคชั่น , หนังผจญภัย , หนัง Netflix , หนังแฟนตาซี

เรื่องย่อ : The Old Guard ดิ โอลด์ การ์ด (2020) [ บรรยายไทย ]

ชื่อภาพยนตร์ : The Old Guard ดิ โอลด์ การ์ด
แนว/ประเภท : Action,  Adventure,  Fantasy
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Gina Prince-Bythewood
บทภาพยนตร์ : Greg Rucka,  
นักแสดง : Charlize Theron,  KiKi Layne,  Matthias Schoenaerts
วันที่ออกฉาย : 10 July 2020

 

 

เรื่องราวของ แอนดี้ ผู้ที่ถูกพันธนาการด้วยความอมตะมานานนับพันปีพร้อมด้วยเหล่าทหารรับจ้างผู้ไม่มีวันตาย และพร้อมจะต่อสู้เพื่อปกป้องโลกจากภัยร้ายมานานนับศตวรรษ แต่กลับกลายเป็นว่าความอมตะของพวกเขานั้นกลับไม่ง่ายอย่างที่คิดเมื่อทีมกองทัพของเธอได้รับคัดเลือกให้ปฏิบัติภารกิจฉุกเฉิน แอนดี้ และทหารคนใหม่จึงต้องร่วมมือกันหาทางยับยั้งผู้ที่บงการอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด

 

The Old Guard (Netflix) Photo 5 of 16

IMDB : tt7556122

คะแนน : 6.8

รับชม : 14062 ครั้ง

เล่น : 7190 ครั้ง



 

ช่วงเวลานี้แน่นอนว่าหนังโรงก็ยังไม่มีภาพยนต์อะไรใหม่ๆเข้ามาฉายครับ และทำให้การดูหนังของใครหลายๆคนนั้นเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน แน่นอนว่ามีการเปลี่ยนแปลงมาดูหนังผ่านบริการ Straming กันมากขึ้นเช่น NETFLIX ครับ และในช่วงนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นโอกาศที่ดีเลยแหละสำหรับการดูหนังแบบนี้ โดยเมื่อไม่กี่วันนี้ได้มีหนังเรื่องใหม่ที่น่าสนใจมาลงก็คือ THE OLD GUARD นั้นเอง เป็นภาพยนต์ที่เอามาจาก คอมมิคในชื่อเดียวกันด้วยของทางค่าย IMAGE COMICS เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ นักรบที่เป็นอมตะ ฆ่าไม่ตายตั้งแต่สมัยอดีต ยุคหลายร้อยพันปีมาก่อนหน้านี้ และเป็นการเล่าเรื่องในยุคปัจจุบันแล้วที่มีการรวมทีม และได้ไปรับภารกิจเสี่ยงตาย แต่ที่จริงเป็นการหักหลังกันไปเอง แน่นอนว่าเรื่องราวถือว่าดูน่าสนใจและน่าติดตามครับ ได้รับการกำกับจาก Gina Prince-Bythewood และ ทำงามร่วมกันกับนักแสดงมากฝีมือทั้งหลายครับ เป็นหนัง Blockbuster เน้นๆเรื่องนึงในช่วงนี้เลยนั้นเอง ตัวหนังนั้นหลังจากที่ได้ดูก็ถือว่าพอดูได้เพลินๆ ฆ่าเวลาได้เป็นหนังสูตรสำเร็จ ทั่วไปมากๆและแอคชั่นธรรมดาครับ แต่ก็จบได้ลงตัวก็ถือว่าไม่ได้แย่ และดีกว่าหนัง NETFLIX เรื่องอื่นๆไม่ได้เสียเวลา หรือดูแล้วน่าเบื่อเลยแม้แต่น้อยครับเรื่องนี้

 

เนื้อเรื่องนั้นไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเล่าเรื่องแบบธรรมดาเรียบๆตั้งแต่ต้นจนจบครับ เป็นการเล่าเรื่องที่หาได้จากหนังทั่วไปในยุคนี้ ไม่มีอะไรซับซ้อนถ้าหากใครดูหนังบ่อยๆน่าจะเดาได้ตั้งแต่ต้นเลยว่าจะเป็นยังไง ก็เป็นจุดที่แอบเสียดายมากๆคือเนื้อเรื่องน่าจะเล่าอะไรได้มากกว่านี้นิดหน่อย หรือลงลึกในส่วนของชีวิตตัวละครหลักให้เราเข้าถึงได้มากกว่านี้จะลงตัว แต่ก็ต้องขอชมว่าเนื้อเรื่องการเล่าก็ไม่ได้น่าเบื่อแม้แต่น้อยครับ มีการพยายามแทรกดราม่าของชีวิตอมตะเข้ามาได้บ้าง และเรื่องราวเพิ่มเติมในหลายๆส่วนทำให้ไม่ใช่หนังแบบอมตะแบบที่เราเคยดูมาก็ถือว่ามีการแทรกเข้ามาอยู่บ้าง ไม่ได้เรียบไปซะทีเดียวครับ เอาจริงๆนั้นชอบต้นเรื่องของหนังและไปถึงกลางเรื่องอันนี้ถือว่าลงตัวเลยแหละ แต่พอหลังๆนั้นแอบจะแปลกๆไปหน่อยและเดาได้ง่ายทันทีว่าจะเป็นอย่างไร แต่ก็ดีที่ตอนจบนั้นช่วยไว้ได้ จบได้ลงตัว และปลายเปิดไปยังภาคต่อได้ด้วยเช่นกันครับสำหรับ เนื้อเรื่องและบทของเรื่องนี้ย่อยง่าย ดูง่ายเพลินๆ แต่ก็จบได้ลงตัว

 

 

 

นักแสดงนั้นต้องบอกว่าเน้นๆที่ นักแสดงนำ Charlize Theron ที่เราคุ้นเคยจากทั้งเรื่อง MADMAX – ATOMIC BLONDE หรือจะ Bombshell และรวมถึง Fast 8 ด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าสมทบกับนักแสดง ทั้ง Chiwetel Ejiofor ที่เราน่าจะคุ้นตากันดีในหลายเรื่อง แน่นอนว่าตัวหนังนั้นส่งไปที่นักแสดงนำ Charlize Theron ทั้งหมดในครั้งนี้มาเล่นแสดงในสายหนังแอคชั่นเต็มๆครับ ต้องบอกว่าไม่มีข้อติสำหรับนักแสดงนำและการแสดงของหลายๆคนเลยในหนังเรื่องนี้ เล่นฉากแอคชั่นได้เท่มากๆ และต้องชมว่าการกำกับแอคชั่นของตัวเอกนั้นทำได้ดูดี และบทก็ลงตัวเลยแหละ แต่นักแสดงคนอื่นๆอาจจะไม่ค่อยเด่นเท่าไรนักถ้ามองกัน ก็จะมีนักแสดง KiKi Layne ที่ปูมาอีกตัวละครที่ก็ถือว่าเติมเต็มหนังให้ลงตัวขึ้นในแง่ของบทและภาพรวมครับ ส่วนตัวอีกฝั่งผู้ร้ายนั้นต้องบอกว่าไม่มีมีซีนน่าจดจำซักเท่าไรและไม่ได้มีผลกับตัวหนังเท่าที่ควรครับ ก็น่าเสียดายนิดนึงในส่วนนี้

 

 

งานภาพและเสียงนั้นต้องบอกว่าเรื่องนี้อาจจะไม่ได้เน้นโทนสีอะไรซักเท่าไร แต่ชอบที่รู้สึกว่าสถานที่ถ่ายและฉาก โปรดักชั่นอะไรนั้นดูดีเกินหน้าเกินตาเรื่องอื่นๆอยู่บ้างครับจุดนี้ถือว่าโอเคเลยแหละ ส่วนมุมกล้องนั้นกลางๆไม่ได้เด่นมากนัก เพราะในฉากแอคชั่นก็พอไหวแต่จริงๆมันน่าจะมีมุมที่ทำให้เราได้ลุ้น หรือมีส่วนร่วมได้มากกว่านี้พอสมควรครับ บางจังหวะเลยทำให้แอคชั่นที่มีมันค่อนข้างธรรมดา บางเบาไปมากแม้ตัวหนังจะมีแอคชั่นเยอะก็ตามในจุดนี้น่าเสียดาย และในตัวเพลงประกอบนั้นมีมาบ้างนิดหน่อยพอเพลินๆครับ ส่วนดนตรีซาวด์พื้นหลังก็เพิ่มจังหวะหนังได้ระดับนึง แต่ไม่ได้สุดหรือลุ้นละทึกเท่าไร ทำให้หลายๆส่วนของหนังมันธรรมดาๆเรียบๆและน่าจะมีอะไรได้มากกว่านี้

 

 

ถ้ามองกันในบรรดาหนัง NETFLIX ที่ออกมากันล่าสุดก็ถือว่าเรื่องนี้ดูดีและมีอะไรลึกขึ้นมากกว่าเดิมเยอะครับ ถือว่าเป็นการพัฒนาที่ดีขึ้นและดูเพลินฆ่าเวลาได้แบบไม่เสียดายเวลาครับ แน่นอนว่าถ้าเรามองไปเทียบกับหนังโรงอะไรแบบนั้นมันน่าจะมีจุดหลักๆคือ เรื่องบทหนังหรือว่าความลึกของหนังที่น่าจะทำได้ลงตัวมากกว่านี้นิดหน่อยครับ แต่ถ้ามองในแง่ของ โปรดักชั่น ดารา การแสดง มุมกล้อง เสียงพวกนี้บอกเลยว่าไม่ต่างกันกับหนังโรงกันแล้ว แต่ถ้ามองในแง่ของภาพรวมของหนังมันยังไม่สุดเท่าไร และแม้จะเป็นหนังแอคชั่นแน่นๆแต่ก็น่าเสียดายว่าน่าจะทำให้มันดุเดือดมากกว่านี้ได้ครับ ทั้งเรื่องของมุมกล้อง ความต่อเนื่องในหลายๆส่วนและตัวบทด้วยเช่นกัน แต่ถ้าหากถามว่ามันดูสนุกไหม ก็ต้องบอกเลยว่าดูสนุกครับ เพลินๆแบบไม่ได้ลงลึกหรือให้คิดอะไรมาก ฆ่าเวลาช่วงนี้ที่หนังโรงเงียบๆได้นั้นเอง