The Rhythm Section โคตรสาว มือพระกาฬ (2020) พากย์ไทย บรรยายไทย

 

เบลก ไลฟ์ลี แปลงโฉมเป็นสาวเซอร์เพื่อรับบทนักฆ่า

The Rhythm Section เป็นผลงานของผู้กำกับหญิง "รีด โมราโน" (จากซีรีส์ The Handmaid's Tale) ถือเป็นผลงานการกำกับหนังใหญ่เรื่องแรกๆ ของเธอ หนังเป็นเรื่องราวของหญิงสาวธรรมดาๆ ที่ผันตัวเป็นนักฆ่ามีปม หลังจากที่เธอสูญเสียครอบครัวไปจากเหตุเครื่องบินตกที่ไม่ได้เป็นอุบัติเหตุ ทำให้เธอออกเดินทางไปทั่วโลกเพื่อล้างแค้นผู้ที่อยู่เบื้องหลัง

ตามรายงานระบุว่า หนังเรื่องนี้ใช้ทุนสร้างประมาณ 50 ล้านเหรียญ แต่ปรากฏว่าทำรายได้เปิดตัว 3 วันแรกไปได้แค่เพียง 2.7 ล้านเหรียญ กับ 3,049 โรงฉายทั่วอเมริกา สร้างสถิติใหม่ด้วยการเป็นหนังที่เปิดตัววงกว้างกับโรงฉายมากกว่า 3,000+ โรง ทำรายได้ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ โค่นแชมป์เก่าอย่าง "Hoot" ที่ครองสถิตินี้มาเกือบ 15 ปี หนังทำรายได้เฉลี่ยต่อโรงแค่เพียง 891 เหรียญ หรือเท่ากับว่ามีคนดูเฉลี่ยราวๆ 50 คนต่อโรงเท่านั้น

หนังล้างแค้นของนักฆ่าหญิงผู้มีปม

ก่อนหน้านี้ "Dolittle" ได้ชื่อเป็น 'ว่าที่' หนังเจ๊งเรื่องแรกของปี แต่หนังก็ยังประคับประคองได้อยู่บนบ็อกซ์ออฟฟิศได้อยู่ แม้ว่าสถานการณ์ก็คงจะไม่ดีขึ้นไปกว่านี้เท่าไหร่ แต่กรณีของ The Rhythm Section กลายเป็นหนังที่ชี้ชัดได้เลยว่า หนังล้มเหลวทางด้านรายได้ตั้งแต่การเปิดตัว จึงตัดหน้าชิงตำแหน่งหนังคว่ำเรื่องแรกของปีไปครอง

 

หนังถูกวางตัวเป็น เจมส์ บอนด์ ฉบับผู้หญิง

ถึงแม้ว่าหนังจะล้มเหลวด้านรายได้สุดๆ ได้ทีมงานก็ยังภูมิใจ "บาร์บารา บรอคโคลิ" และ "ไมเคิล จี. วิลสัน" โปรดิวเซอร์ของหนังเรื่องนี้ได้ออกมาเปิดใจ หลังจากหนังเปิดตัวได้เจ๊งสนิท "เรารู้สึกผิดหวังที่หนังทำรายได้ออกมาเพียงแค่นี้ แต่เราก็ยังภูมิใจในหนังของเรา และตัวผู้กำกับหญิง อีกทั้งยังชื่นชมการแสดงที่ยอดเยี่ยมของ เบลก ไลฟ์ลี ด้วย"

ปัญหาส่วนหนึ่งของหนัง น่าจะเป็นความสดใหม่ เนื่องจากความล่าช้าของตัวหนังในด้านการผลิต เดิมหนังเปิดกล้องถ่ายทำตั้งแต่ช่วงปลายปี 2017 แต่ก็ต้องหยุดชะงักลงไปเพราะนักแสดงนำได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะกลับมาถ่ายทำต่อได้อีกใน 6 เดือนต่อมา มีรายงานว่าหนังกลับมาถ่ายทำซ่อมเล็กน้อยในปี 2019 ทำให้เดิมทีจะเข้าฉายตั้งแต่ต้นปี 2019 ทำให้เลื่อนออกไปเรื่อยๆ กระทั่งมาถึงช่วงต้นปี 2020

อย่างไรก็ตาม The Rhythm Section น่าจะประสบปัญหาการขาดทุนอย่างน้อย 30-40 ล้านเหรียญ ที่สตูดิโอผู้สร้างและจัดจำหน่ายอย่าง พาราเมาท์ พิคเจอร์ส ต้องจำยอมรับสภาพที่เกิดขึ้นดังกล่าว เดิมทีหนังเรื่องนี้มีคิวเข้าฉายในเมืองไทย แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าจะถอดโปรแกรมออกไปแล้ว เพราะกระแสตอบรับไม่ดีเท่าที่ควร