หมวดหมู่ : หนังผจญภัย , หนังตลก , หนังครอบครัว
เรื่องย่อ : Dolittle ด็อกเตอร์ ดูลิตเติ้ล (2020) [ Master iTunes ] พากย์ไทย บรรยายไทย
ชื่อภาพยนตร์ : Dolittle ด็อกเตอร์ ดูลิตเติ้ล
ประเภท : Adventure, Comedy, Family
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Stephen Gaghan
บทภาพยนตร์ : Stephen Gaghan, Dan Gregor, Hugh Lofting, Doug Mand, Thomas Shepherd
นักแสดง : Robert Downey Jr., Antonio Banderas, Michael Sheen, Jim Broadbent, Jessie Buckley, Harry Collett
วันที่เข้าฉาย : 16 มกราคม 2563
หลังจากสูญเสียภรรยาเมื่อเจ็ดปีก่อน ด็อกเตอร์ จอห์น ดูลิตเติ้ล (ดาวนีย์) ผู้มีความแปลกไม่เหมือนใครและสร้างชื่อเสียงเป็นหมอและสัตว์แพทย์ของสมเด็จพระราชินีวิคตอเรียแห่งอังกฤษ เขาใช้ชีวิตอย่างสันโดษอยู่หลังกำแพงสูง ซึ่งเป็นที่ตั้งของคฤหาสน์ดูลิตเติ้ลกับสวนสัตว์ที่มีสัตว์หายาก แต่เมื่อพระราชินี (เจสซี่ บัคลีย์ จาก Wild Rose) มีพระอาการประชวรอย่างสาหัส ดูลิตเติ้ลจึงต้องออกเดินทางผจญภัยไปยังเกาะในตำนาน เพื่อหาวิธีรักษา พร้อมทั้งรื้อฟื้นสติปัญญาและความกล้าหาญ ต้องต่อสู้กับศัตรูและค้นพบสิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์ .
คุณหมอออกเดินทางไปกับนักเดินทางวัยเยาว์ (แฮร์รี่ คอลเล็ตต์) และเหล่าเพื่อนที่เป็นสัตว์ดุร้าย อาทิ ลิงกอริลลาผู้มีความกังวล (รามี มาเล็ก เจ้าของรางวัลออสการ์), เป็ดสมองนก ผู้กระตือรือล้น (เจ้าของรางวัลออสการ์ ออคตาเวีย สเปนเซอร์), นกกระจอกเทศจอมถากถาง (คูเมล นันจานี จาก The Big Sick) หมีขั้วโลกที่มองโลกในแง่ดี (จอห์น ซีนา จาก Bumblebee) และนกแก้วหัวแข็ง (เจ้าของรางวัลออสการ์ เอ็มม่า ธอมป์สัน) ซึ่งทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและเป็นสัตว์ที่ดูลิตเติ้ลที่ไว้วางใจและเชื่อถือมากที่สุด
IMDB : tt6673612
คะแนน : 5.6
รับชม : 122917 ครั้ง
เล่น : 64719 ครั้ง
นับเป็นเวลา 100 ปีแล้วที่ Dr. Dolittle ของ ฮิวจ์ ลอฟติง ได้โลดแล่นไปตามสื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะภาพยนตร์เองก็มีการสร้างในหลายเวอร์ชัน โดยย้อนกลับไปปี 1998 ทั่วโลกได้รู้จักกับ Dr. Dolittle ผ่านการแสดงของ เอดดี เมอร์ฟี ดาราตลกผิวสีกับมุกทะเล้น ๆ ใบหน้ากวน ๆ และเหล่าสารพัดสัตว์พูดได้ที่มาสร้างเสียงหัวเราะและความน่ารักโดยดัดแปลงให้เรื่องราวเกิดขึ้นในยุคปัจจุบันจนหนังทำเงินกลายเป็นหนังบล็อกบัสเตอร์มีภาคต่อตามมาในปี 2001 และยังมีหนังแบบส่งตรงวิดีโอตามมาอีก นั่นทำให้เห็นว่าเรื่องราวของ ดร.ดูลิตเติ้ล คุณหมอสารพัดสัตว์ยังคงสัมผัสใจผู้คนแม้กาลเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน แต่คล้อยหลังมาเพียง 19 ปีเราก็ได้ดูเรื่องราวของคุณหมอสารพัดสัตว์กันอีกครั้งในผลงานกำกับของสตีเฟน กาแกน ที่เคยมีงานกำกับเขียนบทระดับออสการ์อย่าง Traffic(2000) และ Syriana (2005) แต่คราวนี้กาแกนยึดการเดินเรื่องในยุควิคตอเรี่ยนของอังกฤษตามนิยายอีกครั้ง โดยได้โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ที่เพิ่งจบภารกิจกับเหล่าอเวนเจอร์มารับบท ดร.ดูลิตเติ้ล คุณหมอที่พูดคุยกับสัตว์ได้ ซึ่งแน่นอนว่าการได้นักแสดงที่ดีก็ทำให้หนังที่มีภาพลักษณ์การเล่าเรื่องดูเชย ๆ และ ซ้ำ ๆ ดูดีขึ้นมาอย่างไม่เคยคิดมาก่อนเลยล่ะ
ประการแรกเลยคือ ดร.ดูลิตเติ้ล ในฉบับนี้ถูกดัดแปลงจากฉบับนิยายที่เป็นหนุ่มโสดให้กลายเป็นหนุ่มหม้ายที่สูญเสียภรรยานักสำรวจสุดที่รักไป จนตัวเขาไร้ซึ่งหัวจิตหัวใจจะออกเดินทางไปไหนแม้แต่จะออกจากบ้านแม้เพียงก้าวเดียว ดังนั้นพฤติกรรมเพี้ยน ๆ ต่าง ๆ ที่โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ต้องแสดงออกก็ถูกคิดมาละเอียดแล้วว่าเกิดจากดรามาที่เป็นเรื่องราวเบื้องหลังของตัวละคร ซึ่งเขาก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม ความเพี้ยน ความอบอุ่น ความน่ารักของเขากับเหล่าสรรพสัตว์ก็ทำให้ดร. ดูลิตเติ้ลในเวอร์ชันนี้เข้าถึงหัวใจเด็ก ๆ ได้ไม่ยาก แถมยังพอดีแบบไม่เพี้ยนเกินไปเหมือนเชอร์ล็อกโฮล์มแต่ก็ไม่ได้เท่เกินมนุษย์แบบโทนี สตาร์ก จะมีเสียดายหน่อยก็ตรงที่หนังเร่งจังหวะในการเล่าเรื่องเหลือเกินทำให้ฉากที่พยายามจะเล่าดรามามีพื้นที่ของมันน้อยเกินไป แต่หากพิจารณาว่ากลุ่มเป้าหมายของหนังคือครอบครัวและเด็ก ๆ เรื่องการเล่าเรื่องที่ดูเร่งรีบไปหมดแบบนี้ก็ดูจะสนองตอบครอบครัวยุค 4G 5G แบบนี้ดีเหมือนเกิน
อีกจุดที่เป็นข้อดีมาก ๆ คือความฮาของหนังโดยเฉพาะมุกจากเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ได้เหล่าดารามาให้เสียงพากย์ โดยเฉพาะบทนำอย่าง โพลี ที่ได้เอมมา ธอมป์สันผู้ผูกขาดบทสาวใหญ่ใจดีก็ทำให้โพลีมีเสน่ห์และเป็นตัวนำพาเรื่องราวไม่น้อย ซึ่งเรื่องราวบางส่วนก็ถูกบอกเล่าผ่านเสียงของโพลีด้วย ส่วนกระรอกตัวฮาอย่างเควิน ก็ได้ เครก โรบินสัน ดาราตลกผิวสีมาพากย์ได้กวนชวนหัวเราะมาก ๆ และที่ถือเป็นตัวขโมยซีนมาก ๆ ก็หนีไม่พ้น ชีชี่ ลิงกอริลลาขี้กลัวที่ได้ รามี มาเล็ก จาก Bohemian Rhapsody และ Mr. Robot มาพากย์ได้อย่างมีเสน่ห์คู่กับบท โยชิ หมีขั้วโลกขี้หนาวที่ได้อดีตนักมวยปล้ำอย่าง จอห์น ซีนา มาพากย์ได้อย่างน่ารัก น่าชัง นอกนั้นบทของสัตว์ตัวอื่นก็ถูกเฉลี่ยกันไปอย่าง ทอม ฮอลแลนด์ ที่มาพากย์เป็น จิ๊ป หมาคู่ใจของดร.ดูลิตเติ้ล เพื่อหวังขายว่านี่คือการกลับมาร่วมงานกันต่อจากอเวนเจอร์ก็กลายเป็นเพียงตัวประกอบไปอย่างน่าเสียดาย
มาว่ากันถึงความลงตัวของหนังกันบ้าง ด้วยความที่นิยายมีมาเกิน 100 ปี ดัดแปลงมาครบทุกสื่อแล้ว ดังนั้นการที่ทุกคนรู้จักเรื่องราวและคาแรกเตอร์ของดร. ดูลิตเติ้ล จนทะลุขนาดนี้แล้วก็เหมือนกาแกน จะไม่ได้สนใจเล่าที่มาที่ไปของ ดร.ดูลิตเติ้ล นักโดยหนังใช้อนิเมชันสไตล์โรโตสโคป (ถ่ายหนังมาแล้ววาดทับทีละเฟรมให้กลายเป็นการ์ตูน) มาบอกเล่าเรื่องราวที่มาที่ไปของดร.ดูลิตเติ้ลตอนต้นเรื่องเพื่อปูที่มาพฤติกรรมเพี้ยน ๆ ของเขาเท่านั้น แต่กลับไม่ได้สำรวจสภาพจิตใจของตัวดูลิตเติ้ลฉบับนี้นัก ซึ่งก็น่าเสียดายที่การที่หนังฉบับนี้เป็นฉบับแรกที่ตัดคำว่า ด็อกเตอร์ ออกจากชื่อเรื่องให้เรารู้สึกถึงความเป็นมนุษย์มากขึ้นแต่ดันเล่าให้เขากลายเป็นผู้วิเศษเสียยิ่งกว่าเวอร์ชันอื่นเสียอีก และแม้บทจะบังคับให้เขาต้องกลับไปสู้กับพ่อตา (รับบท โดย อันโตนิโอ บันเดอราส) แต่ก็ดันไม่มีอะไรมากไปกว่าการสร้างฉากผจญเสือดุร้ายอย่างแบร์รีแค่นั้นเอง และถ้าพ้นจากดรามาที่เราว่ายังไม่ขยี้ให้สุดแล้ว ด้านการเล่าเรื่องราวแนวผจญภัยเองที่อุตส่าห์อัดทั้งฉากขับเรือรบไล่ล่า เอาอานใส่ให้ปลาวาฬช่วยเร่งสปีดเรือ ระเบิดเมือง สู้เสือ ไปจนถึงผจญมังกร หนังก็เลือกให้ปมทุกอย่างเริ่มง่ายจบง่ายขาดความตื่นเต้นสำหรับคนดูวัยผู้ใหญ่มากไปหน่อย แต่อย่างว่าหากมองว่านี่คือหนังครอบครัวก็คงต้องทำใจละครับยังดีที่หนังมีทั้งมุกฮาและฉากผจญภัยที่น่าตื่นตาอัดมาถี่พอสมควรแต่เชื่อว่าเด็ก ๆ จะชอบแน่นอน
สรุปแล้ว Dolittle คือหนังที่เราแนะนำให้ครอบครัวพากันไปสนุกในโรงภาพยนตร์มากกว่าคอหนังที่ต้องการหาหนังแอ็กชันผจญภัยสนุก ๆ น่าตื่นเต้นดู เพราะแม้หนังจะมีซีนน่าตื่นตาตื่นใจอยู่เยอะ แต่โทนการเล่าเรื่องดูจะเอาใจเด็ก ๆ มากกว่าผู้ใหญ่ ยังดีที่ได้มุกฮา ๆ และการพากย์ที่มีเสน่ห์จากเหล่าดาราดังมาทำให้เรื่องราวมีสีสันและงานโพรดักชันที่ทำได้ในระดับไม่น่าเกลียดก็ทำให้ Dolittle เหมาะมากกับการเป็นหนังครอบครัวเปิดปี 2020 ได้อย่างหรรษา