หมวดหมู่ : หนังอาชญากรรม , หนังดราม่า , หนังระทึกขวัญ , หนังแอคชั่น
เรื่องย่อ : Heat ฮีท คนระห่ำคน (1995) พากย์ไทย บรรยายไทย
ชื่อภาพยนตร์ : Heat ฮีท คนระห่ำคน
แนว/ประเภท : Crime, Drama, Thriller
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Michael Mann
บทภาพยนตร์ : Michael Mann
นักแสดง : Al Pacino, Robert De Niro, Val Kilmer, Jon Voight
วันที่ออกฉาย : 15 ธันวาคมคม 2538
เนื้อเรื่องย่อ ฮานนา นายตำรวจที่เริ่มต้นอีกวันอย่างเลวร้าย เมื่อภรรยาของเขาต้องการที่จะทิ้งเขาไป ในขณะที่แก๊งโจร ก่อดดี ปล้น ฆาตกรรม ยังวนเวียนอยู่ในหัวเขาตลอดเวลา ทำให้งานกลายเป็นทั้งหมดของชีวิตเขา ซึ่งยากที่ผู้หญิงคนใดจะทนได้ และด้วยนิสัยที่ดื้อดึง อยู่เฉยกับการกระทำที่เลวร้ายไม่ได้ ก็มักจะทำให้เขาต้องหงุดหงิดอยู่ตลอดเวลา แมคคอลี เป็นตรงกันข้าม เขาเยือกเย็น สงบ และเป็นจอมวางแผนระดับสุดยอด บุคลิกบทของ เดอนีโร ถูกวางไว้ให้สุขุม เย็นและนิ่ง ซึ่งเจตนาจะให้อยู่ตรงกันข้ามกับบุคลิกเจ้าอารมณ์ของ ปาชิโน แมคคอรีเป็นโสด อาชีพของเขาผูกติดอยู่กับการเสี่ยงตาย และเชื่อมั่นว่าในการดำรงชีวิตที่เสี่ยงตายจะทำให้เข ามีคนรักไ ม่ได้ แต่ในที่สุดเขาก็พบผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่สงบ และเยือกเย็นพอๆกัน เขาพบเธอในห้องสมุด กราฟฟิกดีไซเนอร์ผู้มีชื่อว่า เอ็ดดี้ ผู้หญิงที่ทำให้เขาตกหลุมรัก และแทบจะลืมข้อห้ามการมีคุ่ของเขาเองคริส ชีเฮอรีส (Val Kilmer) ลูกน้องและเพื่อนของแมคคอรี คริสแต่งงานแล้วและมีปัญหาเดียวกับฮานนา แม้ว่าภรรยาของเขา (Ashley Judd) จะเข้าใจในตัวของคริส มากกว่าภรรยาของฮานนา แต่นั่นก็เป็นแค่ความอบอุ่นเพียงเล็กน้อย ที่ไม่สามารถทนอยู่ได้เช่นเดียวกันไม่ว่าดีหรือเลว งานของคนทั้งสามก็ล้วนสร้างปัญหาให้กับชีวิตและครอบค รัว งานของแมคคอรีและคริสคือปล้น งานของฮานนาก็คือหยุดพวกเขาให้ได้ และนี่คือบ่วงที่ครอบงำทั้งสามคนใน Heat นอกจากมานน์จะจับสองดาราเจ้าพ่อของฮอลลีวู๊ด มาแสดงในหนังเรื่องเดียวกันแล้ว มานน์ยังวางบทให้ปาชิโน และ เดอนีโร เผชิญหน้ากันในคอฟฟีชอพ การสนทนาสั้นๆ ในซีนนี้ เผยให้เห็นความเหมือน และแตกต่างของบุคลิกของที้งสอง ทั้งคู่ต่างเป็นสุดยอดในอาชีพของตน และแสดงความเฉียบคมออกมาในการสนทนาครั้งนี้ หลังการสนทนาเมื่อแมคคอรี และฮานนาต้องจากกันด้วยการเจรจาที่ไม่สามารถตกลงกันไ ด้ ทั้งคู่ต่างรู้สึกเสียดายและเกิดความนับถือในกันและก ัน และบางทีอาจจะเป็นความรักของมิตรในสถานะของศัตรู แต่ทั้งคู่ก็ต้องกลับไปทำงานของตนต่อ ผลสุดท้ายจะมีเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้นที่ทำงานสำเร็จ
IMDB : tt0113277
คะแนน : 8.2
รับชม : 4660 ครั้ง
เล่น : 1730 ครั้ง
เรื่อง Heat เป็นผลงานการกำกับและเขียนบท โดย Michael Mann ผู้กำกับระดับพรีเมี่ยม ที่ชอบทำหนังแนวอาชญากรรมแอ็คชั่น นอกจากเรื่อง Heat แกก็ยังมีผลงานแนวๆนี้ ดีขึ้นหิ้งอีกหลายเรื่อง เช่น Collateral, Maimi Vice, Public Enemies เป็นต้น
นำแสดงโดย พระเอกรุ่นใหญ่สองคนที่เคยร่วมงานกันมาก่อนในเรื่อง The Godfather ภาค 2 นั่นคือ Al Pacino และ Robert De Niro ทั้งคู่ต่างเป็นดาราชั้นเลิศในวงการ ดีกรีระดับดาราแสดงหนังเข้าชิงรางวัลออสการ์ มี Val Kilmer จากเรื่อง Top Gun, Tom Sizemore จากเรื่อง Saving Private Ryan และ Natalie Portman จากเรื่อง Leon The Profeesional ร่วมแสดงในบทสมทบอีกด้วย
หนังเรื่อง Heat เป็นหนังแนวปล้นอาชญากรรม เฉือนคม ชิงไหวชิงพริบ ระหว่างตำรวจและกลุ่มโจร ที่มีบทดราม่าที่ลงตัว และฉากแอ็คชั่นระดับตำนาน ฉากไล่ยิงกันกลางถนนนั้นเอง ซึ่งหนังแนวปล้นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องนี้ที่เห็นได้ชัด คือ เรื่อง The Town และ Den Of Thieves รวมถึงฉากปล้นแบงค์เปิดเรื่อง The Dark Knight ซีนการประชันหน้าคุยกัน ระหว่าง แบทแมน กับ โจ๊กเกอร์ ตัวผู้กำกับอย่าง Christopher Nolan ก็ได้อิทธิพลจากหนังเรื่อง Heat อีกด้วย รวมถึงฉากการประจันหน้าคุยกันระหว่าง เจมส์ บอนด์ กับ ตัวร้าย ในภาค Skyfall ก็ได้รับอิทธิพลจากเรื่อง Heat เช่นกัน เรียกได้ว่าหนังเรื่องนี้สร้างแรงบันดาลให้ทีมงานผู้สร้างหนังรวมถึงผู้กำกับหลายคน
หนังเปิดเรื่องด้วยความเรียบง่ายของตัวละครสองคน คนหนึ่งเดินทางมาทางรถไฟ ใส่สูทดูดี มาดสุขุม ดูเหมือนตำรวจเก่า แต่ที่แท้คือ ยอดโจรปล้น นีล แม็คคอร์รี่ เขาเป็นหัวหน้าทีมปล้น ที่กำลังรวบรวมทีมปล้นไปทำงานชิ้นใหญ่ ตัดกลับมาเผยอีกตัวละคร นั่นคือ นายตำรวจสายสืบแผนกอาชญากรรมดูมีอายุ เก๋าเกม วินเซนต์ ฮันนา ที่ใช้ชีวิตอยู่กับภรรยา แม่หม้ายลูกติดคนหนึ่งที่มีปัญหา หนังเล่าสลับเหตุการณ์กันไปมา ระหว่างเรื่องราวของ ทีมปล้น และ ฝ่ายตำรวจ และเจาะชีวิตแต่ละตัวละครได้อย่างลงตัว ทั้งมุม พระเอกที่นอกเหนือจากการเป็นยอดนายตำรวจ เขาก็ต้องคอยรับอารมณ์ของภรรยาและลูกสาวที่มีปัญหา และ ชีวิตอีกด้านของพวกกลุ่มโจรปล้น ที่มีด้านชีวิตที่ตรงข้ามกับอาชีพที่ทำ
ฉากที่ทำให้ขนลุก คือ การประจันหน้า เชือดเฉือนกัน ระหว่างพระเอกสองคน นั่นคือ ซีนในร้านอาหาร ที่ต่างฝ่ายต่างพูดกันอย่างมีชั้นเชิง แต่ต่างคนต่างฝ่ายยังลงมือกระทำใดๆต่อกันไม่ได้ ซึ่งดูเจ๋งมากในซีนนี้
ฉากแอ็คชั่นมีเป็นระยะๆ ในหนัง แต่พูดถึงไม่ได้เลย คือ ซีน longtake ยิงกันในตำนานของเรื่องนี้ เป็นต้นแบบในฉากยิงกันกลางถนนอันดุเดือดให้หนังแนวแอ็คชั่นในยุคต่อๆมาเลยก็ว่าได้ ช่วงนั้นเป็นช่วงนี้ทาง Hollywood กำลังทดสอบเสียงลำโพง Dolby 5.1 เลยใช้เสียงปืนทดสอบในหนังเรื่องนี้ ซึ่งมันเวิร์คมาก เสียงดังกระหน่ำ ฟังชัด หนักแน่นทุกเม็ด และการไม่ใช้ sound ประกอบ ทำให้ได้ยินเสียงปืนที่ชัดเจนมากขึ้น
ก่อนการถ่ายทำหลายเดือนตัว Robert De Niro, Al Pacino และนักแสดงคนอื่นๆในเรื่อง ต้องไปรับการฝึกฝนอาวุธปืนกับนักยิงปืนมืออาชีพ ทั้งปืนสั้น ปืนยาว เพื่อความสมจริงในการแสดง ซึ่งออกมาดูสมจริงมาก ไม่แพ้การใช้ปืนในหนังเรื่อง John Wick ในยุคนี้เลย
หนังเรื่องนี้ตัวเด่นมีสองคน คือ Robert De Niro และ Al Pacino แต่แกสองคนนี้ไม่ได้แบกหนังไว้ทั้งเรื่อง ตัวผู้กำกับได้ถ่ายทอดเรื่องราวของตัวละครอื่นๆในเรื่อง ได้ดูดี และชัดเจนทุกการกระทำเช่นกัน บทของ Val Kilmer ลูกทีมของแม็คอร์รี่ ก็ถ่ายทอดในแง่มุมของชีวิตหลังจากการจับปืนปล้นของเขาได้ดี และมีเหตุผล
มันไม่ใช่หนังที่ดูเอามัน ยิงกัน สู้กันอย่างเดียว หนังมันมีเนื้อเรื่องและตัวบทที่ดีมากกว่าจะขายแต่ฉากแอ็คชั่น หนังยังมีความซับซ้อน เป็นการปล้นซ้อนปล้น หักหลังกันในทีมปล้นอีกด้วย
ซีนที่ตัวละครของโรเบิร์ตไปล้างแค้นคนที่หักหลังเขาที่โรงแรม เป็นซีนที่ผมชอบมากๆในหนัง คือ แกดูมามาดเก๋ามาก แค้นแต่มาเอาคืนได้อย่างสะใจและดูฉลาด ลากยาวไปถึงฉากจบของเรื่องที่สองพระเอก มาวิ่งไล่ยิงกัน หนังก็ใช้บรรยากาศกลางคืน ช่วงเงียบๆ สองตัวเอกซ่อนตัว ไล่ยิงกัน ได้ดูดีมากๆ มีความลุ้นว่าใครเจอใครก่อน ใครจะเป็นฝ่ายลั่นไกปืนก่อน
เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นหนังแนวปล้นที่ดีมากๆเรื่องหนึ่ง ผมให้เรื่องนี้ไปเลยที่คะแนน 10/10 แอ็คชั่นมันระห่ำ ดราม่าลงตัว บทอย่างดี สองพระเอกแสดงไว้ได้ยอดเยี่ยมมากๆ โดยเฉพาะบทของ Robert De Niro เรื่องนี้ผมชอบคาแร็คเตอร์ของแกมากๆครับ