หมวดหมู่ : หนังดราม่า , หนังชีวประวัติ , หนังประวัติศาสตร์
เรื่องย่อ : Custer of the West คัสเตอร์ ขุนพลประจัญบาน (1967) พากย์ไทย
ชื่อภาพยนตร์ : Custer of the West คัสเตอร์ ขุนพลประจัญบาน
แนว/ประเภท : Biography, Drama, History
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Robert Siodmak
บทภาพยนตร์ : Bernard Gordon, Julian Zimet
นักแสดง : Robert Shaw, Mary Ure, Ty Hardin
วันที่ออกฉาย : 9 พฤษจิกายน 2510
ความรักของจอร์จอาร์มสตรองคัสเตอร์เกี่ยวกับประเพณีที่กล้าหาญของคัลวารีและความไม่พอใจของเขาเมื่ออุตสาหกรรมมาถึงทำให้เขาไปถึงชะตากรรมของเขาที่ Little Big Horn
IMDB : tt0062844
คะแนน : 5.8
รับชม : 1832 ครั้ง
เล่น : 580 ครั้ง
ใน ประวัติศาสตร์อเมริกัน ยุคแรกนั้น เรื่องราวการสู้รบที่เราคุ้นเคยกันดีอาจจะยิ่งกว่าการสู้รบเพื่อเอกราชจากอังกฤษด้วยซ้ำ คือการสู้รบกับ อินเดียนแดง ชนเผ่าที่อาศัยอยู่ใน ทวีปอเมริกา มาก่อนที่พวกคนขาวชาวอเมริกันทั้งหลายจะเข้าไปบุกเบิก บรรดาหนังคาวบอย (ซึ่งจัดว่าเป็นหนังรุ่นเก่า เนื่องจากหลังๆ ฮอลลีวู้ดมักไปสร้างหนังแอคชั่นในแนวอื่นแทน) ย่อมขาดไม่ได้ที่จะต้องมี อินเดียนแดง เป็นตัวประกอบซึ่งมักจะเป็นผู้ร้ายนั่นเอง
หนังสือเล่มแรกที่ได้ให้มุมมองอีกด้านหนึ่งแก่ผมในเรื่องนี้ คือหนังสือแปลชื่อ "ฝังหัวใจข้าไว้ที่วูนเด็ดนี" ไพรัช แสนสวัสดิ์ แปลจากเรื่อง Bury My Heart at Wounded Knee ของ Dee Brown กล่าวถึง ประวัติศาสตร์ของอินเดียนแดง ในทวีปอเมริกานับตั้งแต่การค้นพบทวีปอเมริกา ไปจนถึงสงครามครั้งสุดท้ายระหว่างอเมริกันชนกับอินเดียนแดง โดยอาศัยการสัมภาษณ์ชาวอินเดียนแดงเท่าที่ยังหลงเหลือประกอบกับเอกสารของทางการสหรัฐฯ เอง ซึ่งจะไม่ขอกล่าวในรายละเอียดมาก แต่ขอบ่นสักหน่อยว่าเดี๋ยวนี้ไม่ทราบว่าหนังสือเล่มดังกล่าวไปอยู่ที่ไหนแล้ว เอาเป็นว่าความผิดถูกในเรื่องที่ชาวอเมริกันไปยึดครองดินแดนมาจากชาวอินเดียนแดงนั้น เป็นเรื่องที่อาจมองได้สองด้าน และยังคงถกเถียงกันอยู่ และภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับปัญหาใน ประวัติศาสตร์อเมริกัน ตอนนี้ คือเรื่อง Custer of the West เริ่มฉายเมื่อปี 1968 (พ.ศ.2511) กล่าวถึงชีวิตของขุนพลผู้เกรียงไกรท่านหนึ่งในยุคนั้น คือ นายพลคัสเตอร์ (George Armstrong Custer) ผู้ที่รบกับอินเดียนแดงจนตัวตาย กลายเป็นตำนานสำคัญเรื่องหนึ่งของชาวอเมริกันมาจนทุกวันนี้
ตามประวัติศาสตร์จากที่ผมเคยอ่านในหนังสือเรื่อง "ฝังหัวใจข้าไว้ที่วูนเด็ดนี" นั้น บรรดาอินเดียนทั้งหลายไม่ได้เห็นคัสเตอร์ หรือ "คนผมยาว" ดีไปกว่าคนขาวคนอื่นสักเท่าไหร่ ถือเป็นศัตรูตัวฉกาจรายหนึ่ง คนที่ควรได้รับการยกย่องกลับเป็นนายพลคนขาวอีกคนหนึ่ง ซึ่งผมจำชื่อไม่ได้แล้ว และคงยากที่จะค้นชื่อมาให้ได้ในเร็ววันเพราะหนังสือยังหาไม่เจอ เอาเป็นว่านายพลคนนี้เดิมก็เป็นทหารผิวขาวที่โหดเหี้ยมผู้หนึ่ง แต่มากลับใจสำนึกบาปได้ในการรบอันโหดร้ายครั้งหนึ่ง (ทำนองเดียวกับพระเอก The last Samurai หรือ พระเจ้าอโศกนั่นแหละครับ) แล้วจึงหันมามีบทบาทในการเป็นตัวกลางในการเจรจาระหว่างรัฐบาลกับอินเดียนแดง ผมนำมาเล่าเปรียบเทียบให้เห็นว่า ในหนังอาจจะสร้างภาพให้คัสเตอร์ดูดีเกินจริงไปบ้าง
ลูกน้องคนสำคัญอย่างผู้พันเรโนนั้น ตามประวัติกล่าวว่าเขาถูกกล่าวหาเรื่องเหล้าจริงๆ ส่วนผู้กองเบนทีนนั้น ไม่มีกล่าวถึงเรื่องทัศนคติต่ออินเดียนเลย และไม่รับประกันว่าสองคนนี้อยู่กับคัสเตอร์ในกรมทหารม้าที่ 7 มาแต่แรกหรือไม่ มีความเป็นไปได้ว่าผู้เขียนบทจะตกแต่งบทบาทของสองคนนี้ขึ้นมาใหม่ให้เรื่องสนุกขึ้นเท่านั้น
ด้านการศึกที่แม่น้ำลิตเติลบิ๊กฮอร์นนั้น ในหนังเล่าไว้มีส่วนทั้งที่เหมือนและไม่เหมือนในบทความของวิกิพีเดีย กล่าวคือ คัสเตอร์ ได้รีบร้อนนำกรมทหารม้าเดินทางไปยังที่หมาย และรีบร้อนเข้าโจมตีอินเดียนแดงโดยไม่รอกองกำลังส่วนอื่นมาสมทบ และได้แบ่งกำลังของกรมทหารม้าที่ 7 ออกเป็น 3 ส่วน โดยตัวเองคุมส่วนหนึ่ง อีกสองส่วนให้ผู้พันเรโนและผู้กองเบนทีนเป็นผู้บังคับบัญชา ตามแผนคัสเตอร์จะอ้อมไปโจมตีข้าศึกจากทางด้านเหนือ เรโนโจมตีจากทางใต้ และเบนทีนโจมตีทางตะวันออก ไม่ใช่ให้รอเฉยๆ อย่างในหนัง จะด้วยการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนระหว่างดำเนินกลยุทธ หรือการทำงานที่ไม่เข้าขากันมาแต่เดิม หรืออะไรก็ตามแต่ ฝ่ายอินเดียนสามารถสกัดกองกำลังของเรโนและเบนทีมไว้ได้ และคัสเตอร์ต้องตกเข้ามาอยู่ในวงล้อมจนเสียชีวิตในที่สุด แน่นอนว่าพวกอินเดียนคงไม่บรรจงเก็บคัสเตอร์ไว้ฆ่าเป็นรายสุดท้ายอย่างในหนังหรอก อีกข้อมูลที่น่าสนใจแต่ในหนังไม่กล่าวถึงคือตระกูลคัสเตอร์ไม่ได้สูญเสียแต่เพียงท่านจอร์จ อาร์มสตรอง คัสเตอร์ เท่านั้น หากยังสูญเสีย นายร้อยเอก โทมัส คัสเตอร์ (Capt. Thomas Custer) แห่งกองร้อยซี และ บอสตัน คัสเตอร์ (Boston Custer) น้องคนสุดท้อง ซึ่งเป็นพลเรือนในกองทัพ และหลานผู้มีนามว่า เฮนรี อาร์มสตรง รีด (Henry Armstrong Reed) ไปอีกด้วย
ข้อสรุปโดยส่วนตัวของผมนั้น ยังไม่ค่อยเชื่อนักว่าคัสเตอร์ตัวจริงจะมีภาพลักษณ์ที่ดีอย่างที่ในหนังสร้างภาพไว้ แถมภาพตัวจริงยังหล่อสู้ โรเบิร์ต ชอว์ ผู้รับบทคัสเตอรในหนังไม่ได้อีกต่างหาก แต่คัสเตอร์ในหนังก็คล้ายๆ กับพระเอกหนังสงครามหลายๆ เรื่องของฮอลลีวู้ด ที่ต้องเผชิญปัญหาความขัดแย้งในใจต่อการทำตามคำสั่งที่ผันผวนไปมา แต่ด้วยความเป็นทหาร สุดท้ายก็ต้องพบจุดจบเพราะการเชื่อฟังในสิ่งที่ทั้งรักทั้งเกลียดนั่นเอง