ดูหนังออนไลน์
ค้นหาหนัง

Norwegian Wood ด้วยรัก ความตาย และเธอ (2010) พากย์ไทย

Norwegian Wood  ด้วยรัก ความตาย และเธอ  (2010) พากย์ไทย
Youtube Video

หมวดหมู่ : หนังดราม่า , หนังโรแมนติก

เรื่องย่อ : Norwegian Wood ด้วยรัก ความตาย และเธอ (2010) พากย์ไทย

ชื่อภาพยนตร์ : Norwegian Wood  ด้วยรัก ความตาย และเธอ
แนว/ประเภท : Romance,  Drama
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Anh Hung Tran
บทภาพยนตร์ : Haruki Murakami,  Anh Hung Tran
นักแสดง : Ken'ichi Matsuyama,   Rinko Kikuchi,   Kiko Mizuhara
วันที่ออกฉาย : 17 February 2011

 

 

 

 

หนังเล่าถึงกรุงโตเกียวยุคปี 1960 โทรุ วาตานาเบะ (เคนอิจิ มัตสึยาม่า) เด็กหนุ่มที่ตกอยู่ในความว้าวุ่นทั้งเรื่องส่วนตัวและความรัก เขาทุ่มเทหัวใจให้กับ นาโอโกะ (ริงโกะ คิคุจิ) รักแรก ผู้หญิงที่เคยเป็นแฟนของเพื่อนสนิทที่คิดสั้นฆ่าตัวตายไปในตอนปิดเทอมช่วงมัธยม

พอเข้ามหาวิทยาลัย โทรุ ตกหลุมรัก นาโอโกะ แบบถอนตัวไม่ขึ้น เขาพยายามสานสัมพันธ์กับเธอตลอด ถึงแม้ว่า นาโอโกะ จะป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจนต้องเข้ารับการรักษาตัว และในช่วงเวลาเดียวกัน โทรุ ก็ได้รู้จักกับ มิโดริ (คิโกะ มิสุฮาระ) สาวสวยสุดแนว เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยที่มีใจให้กับเขาด้วยเช่นกัน แต่ โทรุ ก็ไม่อาจปลดปล่อยตัวเองจากความคิดถึงที่มีต่อ นาโอโกะ ลงได้

 

Tran Anh Hung's "Norwegian Wood" on Notebook | MUBI

 

Norwegian Wood - AsianWiki

IMDB : tt1270842

คะแนน : 6.4

รับชม : 1247 ครั้ง

เล่น : 211 ครั้ง



 

Norwegian Wood เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือเรื่อง Norwegian Wood (ノルウェイの森, Noruwei no Mori) ซึ่งเป็นวรรณกรรมญี่ปุ่นประพันธ์โดย ฮารูกิ มุราคามิ (村上 春樹) ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1987 ซึ่งชื่อเรื่องของหนังสือนั้น ผู้แต่งได้มาจากเพลงของวง The Beatles อีกที (เป็นเพลงที่กล่าวถึง an adult affair น่ะ) หนังสือเล่มนี้พึ่งทำยอดขายได้ 3 ล้านเล่ม (เฉพาะนอกประเทศ ในญี่ปุ่นเองขายได้ 10 ล้านกว่าเล่ม) และถูกแปลแล้ว 40 ภาษา แถมยังเคยได้รับรางวัล ฟรานซ์ คาฟกามาแล้ว

Norwegian Wood เป็นเรื่องราวที่พูดถึงความรักและการสูญเสีย วาตานาเบะ โทรุ ตัวละครนำของ Norwegian Wood หันกลับไปมองชีวิตในช่วงที่เขาเป็นนักศึกษาปีหนึ่งในกรุงโตเกียว พวกเราได้เห็นการพัฒนาความสัมพันธ์ของเขากับผู้หญิงสองคนอย่าง นาโอโกะ ที่มีเสน่ห์แต่มีปัญหาภายในใจ และ มิโดริ ที่เต็มไปด้วยสีสันในชีวิต หนังสือเล่มนี้เล่าเรื่องในฉากหลังของกรุงโตเกียวยุค 60 ช่วงเวลาที่นักศึกษาญี่ปุ่นประท้วงเรื่องสงคราม อย่างไรก็ตาม มุราคามิ บอกว่า Norwegian Wood คือเรื่องราวของความรักที่บริสุทธิ์ที่สุด

ได้ข่าวว่าผู้กำกับหนังเรื่องนี้ใช้เวลาตื๊อลุงมุราคามิถึง 4 ปีแถมยังลงทุนถ่ายตัวอย่างมาให้ลุงดูก่อน ลุงแกถึงจะยอมขายลิขสิทธิ์ให้ ลุงแกบอกว่า “ผมเคยตั้งใจว่าจะไม่ยอมให้หนังสือเล่มนี้ถูกสร้างเป็นหนังเพราะเนื้อหาของ มันคือเรื่องราวของความเหงาที่จับหัวใจ และยังเต็มไปด้วยบทอัศจรรย์ เพื่อถ่ายทอดถึงความสับสนในใจวัยรุ่นญี่ปุ่นในยุคนั้น   แต่ ตรัน อานห์ ฮุง  พยายามตื้อผมอยู่ 4 ปี และลงทุนไปถ่ายฉากบางฉากมาให้ดูจริงๆ  เขาดูตั้งใจมากๆ  ผมเลยยอมตกลงให้เขาสร้างหนังเรื่องนี้ โดยมีเงื่อนไขว่าเขาต้องฉายหนังในระบบฟิล์มสโคปเท่านั้น”

และแล้ว 4 ปีที่พยายามอดทนตื๊อลุง ก็สำเร็จจนได้…

 

 

Norwegian Wood - AsianWiki

 

แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย กรี๊ดทำไม?

จอนนี่ กรีนวู๊ด คือ มือกีต้าร์วง Radiohead นะคร้าฟฟฟฟฟฟฟฟ (ที่กรี๊ดอีกเพราะจอนนี้เป็นคนแต่งเพลง No Surprises เพลงสุดโปรดของอิฉันซึ่งมันโคตรจะหดหู่ ง่อมเหงาเกินบรรยาย โคตรจะเข้ากับหนังเรื่องนี้เบยยย)

นี่ยิ่งทำให้ความอยากดู (ตอนแรกว่าจะไม่ไปดูในโรง จะเช่ามาดูเอา) พุ่งปรี๊ดๆๆๆๆ จนสุดท้ายต้องกระดืบออกจากบ้านในวันหยุดจนได้!!

ต้องขอบอกก่อนว่า หนังเรื่องนี้ไม่เหมาะกับคนไฮเปอร์และอยากเห็นความเคลื่อนไหวบนจอภาพยนตร์ เพราะหนังอึนมาก หนังนิ่งสุดๆ ไม่มีเห้อะไรเลย นอกจากบรรยากาศแห่งความว่างเปล่าที่ถูกบีบอีดยัดใส่เข้าไปในตัวหนังทุกอณู

ทุกครั้งที่เราเห็นตัวละคร โทรุ หรือ นาโอโกะ แม้กระทั่ง มิโดริ หรือนากาซาว่าเองก็ตาม ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ในสถานที่ใด จำนวนคนที่อยู่กับพวกเขามีมากน้อยแค่ไหนก็ตาม เราเองยังคงสัมผัสได้ถึงความโดดเดี่ยวและอ้างว้างของตัวละครได้ตลอดเวลา ช็อตที่ทำให้รู้สึกว่าโทรุ (พระเอก) เป็นคนที่เดียวดายมากก็คือฉากที่โทรุเดินไปตามฝูงนักศึกษาที่ตั้งขบวนการประท้วงด้านการเมืองในสมัยนั้น โทรุได้แต่ทำตัวเองให้ไหลไปกับฝูงชน (ทั้งๆที่คนอื่นเลือกที่จะหลบออกมาข้างทาง) แต่ตัวเขาเองกลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆต่อสิ่งที่เกิดขึ้นรอบข้าง และอีกครั้งหนึ่งที่ย้ำให้มีความรู้สึกเช่นนั้น ก็ตอนที่มิโดริถามโทรุว่า “คุณเป็นคนชอบอยู่กับความโดดเดี่ยวหรือ” และโทรุตอบกลับมาว่า “ไม่มีใครชอบความโดดเดี่ยวขนาดนั้น แต่ผมไม่ชอบการมีเพื่อน พวกเขามักทำให้ผมผิดหวัง” ป๊าดติโธ๊ะ! อิฉันเอามือทาบอกพลางร้องเหยดดดดในใจเสียงดังลั่นประมาณ 14o เดซิเบล

ความโดดเดี่ยวไม่ได้ปรากฏให้เห็นชัดเฉพาะกับโทรุ นาโอโกะไม่ต้องพูดถึง การสูญเสียคิซุกิไปนั้น ชีวิตของเธอไม่เหลืออะไรอีกแล้ว เธอไม่รู้จะพูดคุยกับคนอื่นอย่างเป็นปกติได้อย่างไร เพราะทั้งชีวิตเธอมีแต่คิซุกิ คุณเรโกะซึ่งเป็นผู้ดูแลของนาโอโกะเองก็มีความรู้สึกเหงาเช่นกัน เธออยู่ในสถานบำบัดถึง 7 ปี ไม่ยอมไปไหนทั้งที่มีลูกและสามีรออยู่ที่บ้าน นั่นแสดงให้เห็นว่า “บ้าน” ไม่ได้ให้ความสุขกับเธอเลย แล้วเธอจะอยู่ที่ไหนในโลกนี้ได้หากบ้านไม่สามารถมอบความรู้สึกเช่นนั้นได้? มิโดริ ซึ่งตอนแรกดูเหมือนจะเป็นคนที่สว่างไสวที่สุดในเรื่อง แต่มิโดริเองก็ต้องพบกับความสูญเสียหลายๆอย่าง ฉะนั้นคงจะตัดเธอออกจากวงจรแห่งความเดียวดายนี้ไม่ได้แน่ หรือแม้กระทั่งเสือผู้หญิงอย่าง นากาซาว่า เพื่อนร่วมหอของโทรุ เขานอนกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า แถมมีแฟนสาวที่น่ารักก็ไม่ยอมใส่ใจ โทรุให้ความเห็นต่อตัวเขาว่า “นากาซาว่าไม่เคยให้ความสุขแก่ใคร เขาไม่แม้กระทั่งให้ความสุขแก่ตัวเอง”

จะเห็นได้ว่า ทุกคนในเรื่อง ต่างถูกโอบล้อมไปด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยว เหงา ว้าวุ่นจิตใจ และจิตวิญญาณของพวกเขาไม่ได้ถูกเติมเต็มเลย

หนังทั้งเรื่อง ดูเหมือนจะให้ความสนใจกับเรื่องเซ็กส์เป็นพิเศษ ตอนแรกอิฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมีฉากอย่างว่านั่นบ่อยจังวะ (ประเด็นคือไม่เคยอ่านหนังสือมาก่อนด้วยแหล่ะ) แล้วก็ลองมานั่งคิดๆดู (คิดตอนขับรถด้วย เจริญมาก) สำหรับอิฉันนะ เซ็กส์มันเป็นกิจกรรมที่ทำแล้วมีความรู้สึกถึง Soul Connecting อย่างหนึ่งนะ (ถามว่าเคยลองมั้ย ต้องเรียนตรงๆครัฟว่ายังไม่มีผู้ชายคนไหนโง่พอจะเอากูไปทำเมีย เอ๊ะ แล้วมึงบอกคนอื่นเขาทำไมเนี่ย?) การที่ตัวเอกในเรื่องดูโหยหาการมีเซ็กส์มาก (ถึงแม้จริงๆมันก็คือกิจวัตรอย่างหนึ่งของปุถุชนอ่ะนะ) ก็เพราะพวกเขารู้สึกโดดเดี่ยวยังไงล่ะ การมีเซ็กส์หรือ Soul connecting นั้นดูเหมือนจะเป็นการเติมเต็มชีวิตที่ว่างเปล่าของพวกเขา (คืออย่างน้อยที่สุด ตอนที่มีเซ็กส์ ก็ทำให้รู้ว่ามีคนที่เรากำลังเชื่อมต่อกันอยู่ ทั้งทางกายและห้วงจิตในขณะนั้น) เห็นได้ว่าช่วงท้ายของหนังที่คุณเรโกะมาหาโทรุที่อพาร์ทเมนท์ และขอให้โทรุมีเซ็กส์กับเธอนั้น ในความเป็นจริงมันแทบจะไม่จำเป็นเลย แต่ทำไมเรโกะถึงต้องการเช่นนั้น? เรโกะใช้ชีวิตในสถานบำบัดนานถึง 7 ปี และการมีลูกสาวและสามีดูเหมือนจะไม่ช่วยให้ชีวิตของเธอห่างหายจากความรู้สึกเหงาเปล่าเปลี่ยวเลย การมีความสัมพันธ์กับโทรุ (ซึ่งเป็นเพียงแค่คนรู้จักกันเท่านั้น) กลับกลายเป็นสิ่งที่ช่วยเติมเต็มชีวิตของเรโกะ และเธอพร้อมที่ก้าวต่อไปกับชีวิตที่เหลืออยู่ หลังจากที่เธอปล่อยปละละเลยชีวิตของตัวเองมานาน

 

 

Norwegian Wood, film by Tran Anh Hung | Norwegian wood, Haruki ...

 

โทรุเกิดความสับสนในจิตใจว่าเขาควรจะเลือกใคร(และชีวิตแบบไหน) ระหว่าง…

“นาโอโกะ” ซึ่งเป็นรักแรกของเขา ทั้งคู่พัฒนาความสัมพันธ์ตั้งแต่ตอนที่ คิซูกิ แฟนหนุ่มของนาโอโกะและเพื่อนสนิทของโทรุได้ฆ่าตัวตาย ทั้งสองมีเซ็กส์กันในคืนวันเกิดของนาโอโกะ และโทรุทราบว่านั่นคือครั้งแรกของนาโอโกะ ทำให้โทรุแทบถอนตัวจากนาโอโกะไม่ขึ้น (ทั้งนี้อาจเป็นเพราะความรู้สึกผิดที่ไปทำร้ายนาโอโกะโดยไม่ตั้งใจ หรืออาจจะเป็นเพราะเสน่ห์ของนาโอโกะเองก็ได้) แต่นาโอโกะเองก็แสดงตนอย่างคลุมเครือ ถึงแม้นาโอโกะจะยอมให้โทรุได้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอผ่านทางการสัมผัสที่ลึกซึ้งและสื่อสารโต้ตอบกันผ่านทางจดหมายตลอดเวลา นาโอโกะก็ยังลืมคิซุกิคนรักเก่าของเธอไม่ได้ และเธอทำตัวหดหู่อยู่ตลอดเวลานั้นยิ่งทำให้โทรุเกิดคำถามขึ้นแน่นอนล่ะว่า ตกลง นาโอโกะรักเขาบ้างไหม? หากเขายังคงรักนาโอโกะต่อไป นั่นคือการต้องจมอยู่กับอดีตของนาโอโกะที่เหมือนหลุมดำ และมันอาจจะพรากแสงสว่างในชีวิตของเขาตลอดไป

หรือเขาจะเลือก “มิโดริ” ผู้ซึ่งเปรียบเสมือนด้านสว่างของนาโอโกะ เธอร่าเริงและเป็นกันเอง ทั้งคู่ยังไม่เคยมีอะไรกัน เพราะตอนนั้นมิโดริเองก็มีแฟนหนุ่มอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม มิโดริอาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาก็เป็นได้ โทรุอาจจะก้าวข้ามอดีตอันแสนรันทดเพื่อไปเริ่มต้นใหม่กับอนาคตที่สดใสกับมิโดริก็เป็นได้ ถึงแม้มิโดริจะทำตัวอยู่ในด้านสว่างตลอดเวลา แต่มิโดริเองก็มีเรื่องเศร้าเกิดขึ้นเช่นกัน ฉะนั้นโทรุจะแน่ใจได้อย่างไรล่ะว่ามิโดริคือคนที่เขารักจริงๆ และการใช้ชีวิตกับมิโดรินั้น จะไม่พาเขาจมดิ่งลงสู่ห้วงแห่งความว้าเหว่ดังเช่นนาโอโกะ?

เป็นโชคดีของโทรุ ที่ท้ายที่สุด นาโอโกะก็ฆ่าตัวตายตามคิซุกิไป ถึงแม้โทรุจะเสียใจอย่างหนัก ไม่เป็นผู้เป็นคน แต่สุดท้าย การสูญเสียนาโอโกะที่เขารัก ก็ทำให้โทรุกลับมายืนในจุดที่ตัวเองควรจะมายืน เขาควรจะก้าวต่อไป เพราะเขาเองก็คิดเสมอว่า “คิซุกิตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง คิซุกิตายแล้ว แต่ผมยังไม่ตาย ผมจะมีชีวิตอยู่” ใช่แล้ว คิซุกิยังคงอายุ 17 เหมือนเดิม นาโอโกะยังอายุ 21 เหมือนเดิม เพราะพวกเขาตายไปจากโลกนี้แล้ว มีแต่โทรุที่อายุมากขึ้นทุกๆปี มีแต่โทรุที่ก้าวไปเป็น “ผู้ใหญ่” ได้

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม รอยแผลใดๆที่เกิดขึ้นจาก”ความทรงจำ”ระหว่างความสัมพันธ์ของคนเรานั้น ย่อมคงอยู่ตลอดไป นาโอโกะบอกโทรุอยู่ตลอดเวลาว่า ขอให้โทรุอย่าลืมเธอ โทรุเองก็ไม่อยากลืมนาโอโกะ (มีบางฉากที่พูดถึงความทรงจำของโทรุ รวมถึงรอยแผลที่โทรุได้จากการทำงานพิเศษ นั่นทำให้เรารู้สึกได้ว่า โทรุ ไม่อยากลบรอยแผลบนมือของเขา ซึ่งอาจจะหมายถึงความทรงจำอันเจ็บปวดของเขาที่มีต่อนาโอโกะ) นาโอโกะเองก็ไม่อยากลืมคิซุกิ เธอยังคงคิดถึงวันคืนเก่าๆระหว่างเธอและคิซุกิตลอดเวลา “ความทรงจำ”เหล่านี้เองที่เป็นสิ่งที่กลับมาทำร้ายนาโอโกะ มันตามมาหลอกหลอนเธอจนทำให้เธอต้องจบชีวิตลง แต่สำหรับโทรุ เขาสามารถก้าวข้ามความทรงจำเหล่านั้น (รอยแผลภายในจิตใจ) และหันไปเริ่มต้นใหม่กับ มิโดริ (ซึ่งในหนังไม่ได้บอกว่า มิโดริ หายงอนโทรุหรือไม่)

ในฉากสุดท้ายที่ มิโดริ พูดผ่านสายโทรศัพท์เพื่อถามโทรุว่า “ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน” และโทรุทำหน้ามึนงงนั้น พอจะแปลได้สองอย่าง อย่างแรก มิโดริถามเขาว่าอยู่ที่ไหน เผื่อว่าเธอจะไปหา (นี่คิดในแง่ plain สุดพลัง) หรือว่า มิโดริ ถามเขาว่า “ตัวโทรุนั้น รู้หรือยังว่าตอนนี้ตนเองอยู่ตรงจุดไหนของชีวิต จะก้าวต่อไปทางไหน และทิศทางที่เขาจะไปนั้น จะมีเธอร่วมอยู่ด้วยหรือไม่” มันเป็น awakening call ให้โทรุรู้ตัวนะ อิฉันว่างั้น อืม… (มั่ว)

ความเห็นส่วนตัวนะ* นี่นอกจากมันเป็นหนังรักแล้ว มันยังเป็นหนัง Coming of Age ด้วยนะเนี่ย อิฉันเชื่อว่าขณะที่เรายังเป็นละอ่อนน้อยกันอยู่นั้น เราต้องเคยมีความรู้สึกสับสนและวุ่นวายจิตใจกันทุกคนล่ะน่า เคยบ้างไหม อยู่กับผู้คนมากมาย แต่ไม่มีใครที่สามารถเข้ามาอยู่ในโลกของเราได้น่ะ อะไรประมาณนั้น อธิบายไม่ถืกกกก (อิฉันก็เป็น แต่ไม่เคยทำตัวเรื้อน เป็นเงียบๆ และเติบโตอย่างเงียบๆ)

ทุกความรู้สึกที่สามารถทำให้ชีวิตเราเศร้านั้น ถูกอัดยัดมาเต็มที่ในหนังนิ่งๆเรื่องนี้อย่างเต็มเปี่ยม ทั้งโรงมีอยู่หกคน ไม่มีใครเสียน้ำตาซักคน มันไม่เศร้าขนาดต้องมาเสียน้ำตา เพราะมันไม่ใช่หนังเศร้าน้ำเน่า เพราะมันเป็นเรื่องจริงของชีวิตที่เราต่างผ่านมาแล้วทั้งนั้น ดูแล้วมันก็แค่… พูดไม่ออก มีบางอย่างจุกๆอยู่ที่อก (โดยเฉพาะเพื่อนสาวของอิฉัน นางเป็นเอามาก ส่วนอิฉันต้องใช้เวลาตกตะกอนหน่อย เพราะไม่เคยมีประสบการณ์ด้านความรัก ฮ่าๆๆ)

 

 

The Manila Coffee Party: Movie Review: Norwegian Wood

 

นี่กูเขียนอะไรยืดยาววะเนี่ย พอละดีกว่า (ตัดจบ)

เอาเป็นว่าหนังเรื่องนี้อิฉันค่อนข้างชอบนะ ถึงจะมีช่วงเวลาเนือยๆ ง่วงๆบ้าง แต่พอดูจบ เพลง Norwegian Wood ของ The Beatles ลอยมา โอ… พระเจ้า อินไปอีกหลายวันเลยมั้งเนี่ย ตอนนี้กำลังลังเลอยู่ว่าจะซื้อ Norwegian Wood มาอ่านเลย ดีหรือยัง เพราะเดือนนี้ค่อนข้างช็อต… เห่อ โตแล้ว ไถตังค์พ่อก็ไม่ได้แล้ว

การเป็น”ผู้ใหญ่”นี่มันแย่จริงๆ…