หมวดหมู่ : หนังดราม่า , หนังไทย , หนังโรแมนติก
เรื่องย่อ : The Letter เดอะเลตเตอร์ จดหมายรัก (2004)
ชื่อภาพยนตร์ : The Letter เดอะเลตเตอร์ จดหมายรัก
แนว/ประเภท : romance, Drama
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Pa-oon Chantornsiri
บทภาพยนตร์ : Kongdej Jaturanrasamee
นักแสดง : Supitsha Junlawattaka, Rawat Promrak, Attaporn Teemakorn
วันที่ออกฉาย : 24 June 2004
เรื่องย่อ สำหรับ ดิว (แอน ทองประสม) อาชีพโปรแกรมเมอร์สาวในเมืองใหญ่ ที่ต้องเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้กับบริษัทเว็บไซต์แห่งหนึ่ง ชีวิตมีเพียงจอมอนิเตอร์คอมพิวเตอร์ ซึ่งดึงเอาเวลาส่วนใหญ่ในชีวิตไปเกือบหมด ยังดีที่มี เกด (สุพิชญา จุลวัฒฑะกะ) เพื่อนรักเพียงคนเดียวที่อาศัยอยู่ด้วยกัน จนกระทั่งความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิตได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อดิวต้องเดินทางขึ้นเชียงใหม่หลังจากได้รับจดหมายแจ้งข่าวการเสียชีวิตของยายเล็ก ญาติห่างๆ ที่ทิ้งมรดกเป็นบ้านหลังเล็กที่แสนอบอุ่นและไร่กะเทียมไว้ให้ที่นั่นดิวได้พบกับ ต้น (อรรถพร ธีมากร) นักวิจัยหนุ่มประจำสถานีวิจัยทางการเกษตรที่เชียงใหม่ ให้ความช่วยเหลือดิวและเกดที่ต้องพบกับอุบัติเหตุโดยไม่ได้ตั้งใจในระหว่างการเดินทางกลับกรุงเทพฯ ทำให้ต้องเสียเวลาอีก 6 ชม.เพื่อรอรถกลับกรุงเทพฯ เที่ยวต่อไป
IMDB : tt0427411
คะแนน : 6.5
รับชม : 18789 ครั้ง
เล่น : 6889 ครั้ง
เป็นเรื่องราวความรักของชายหนุ่มและหญิงสาวนามว่า ต้นกับดิว ที่มาความรักของทั้งสองไม่ได้เริ่มต้นจาก ”จดหมายรัก” แต่อย่างใด หาก ”จดหมายรัก” ที่เกี่ยวเนื่องกับความสัมพันธ์ของคนทั้งสองนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากความรักของทั้งสองได้ผ่านการงอกงามเบ่งบาน และได้กลายเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงจิตใจของฝ่ายหนึ่งให้ดำเนินชีวิตต่อไปได้The Letter จดหมายรัก ซึ่งกำกับโดย ผอูน จันทรศิริ นี้อิงจากเค้าโครงเดิมของภาพยนตร์เกาหลีชื่อเดียวกัน ซึ่งสร้างขึ้นประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว โดยที่หนังเรื่องดังกล่าวเป็นหนังรักเล็กๆ เรื่องราวไม่วุ่นวายใหญ่โตแต่สามารถทำเงินถล่มทลายและทำรายได้อันดับหนึ่งชนะหนังฮอลลีวู้ดระดับบ็อกซ์ออฟฟิศในปีนั้นที่เกาหลีใต้
ต้นกับดิว พบกันโดยบังเอิญที่เชียงใหม่ ก่อนที่ดิวจะเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ เพราะชีวิตของเธออยู่ที่นั่น ระยะเวลาสั้นๆที่ทั้งสองคนได้พบกัน ก่อให้เกิดความประทับใจขึ้นมา… แต่หลังจากที่ความรักของคนทั้งสองก่อตัวขึ้น และดำเนินไปได้ระยะหนึ่ง ก็มีเรื่องเศร้าเมื่ออีกฝ่ายหนึ่งทำท่าว่าจะต้องจากไปตลอดกาล…แน่นอนที่สุด เวลาที่เราดูหนัง หลายเรื่องเรามักจะพบความข้องใจประเภทที่ว่า พระเอกกับนางเอกรักกันได้อย่างไร ไม่เข้าใจ หากเป็นหนังสูตรประเภทที่จำเป็นต้องมีพระเอกกับนางเอกอยู่แล้ว ความรักแบบอัตโนมัติระหว่างพระเอกกับนางเอกคงไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลมากนัก ในการอธิบายความรู้สึกของตัวละคร เพราะว่าหนังจำเป็นต้องมีพระเอกและนางเอกตามธรรมเนียมของหนังสูตร
แต่…ถ้าเป็นหนังสูตรซึ่งเป็นหนังรัก ความจำเป็นในการหาเหตุผลหรือการเล่าเรื่องให้คนดูคล้อยตามว่า พระเอกกับนางเอกรักกันได้อย่างไร คงเป็นเหตุผลที่จำเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียวซึ่ง “The Letter จดหมายรัก” ยังคงขาดสิ่งนี้ไป เพราะเรื่องราวเดินทางเป็นสเต็ปไปหน่อยว่า เหตุการณ์ล้อมรอบตัวนางเอก บีบบังคับให้ดิวต้องเดินทางจากกรุงเทพฯขึ้นเหนือเพื่อพักผ่อนจิตใจ โดยมีต้นคอยอยู่ที่นั่นเพื่อดูแลความรู้สึกแม้ว่าทั้งดิวและต้นจะปิ๊งกันตั้งแต่ครั้งแรกที่พบ และต้นได้สานต่อความสัมพันธ์ครั้งนี้ด้วยการโทรศัพท์ถึงดิวตลอดเวลา ก็ไม่น่าจะเป็นเหตุผลเพียงพอให้ดิวรู้สึกต้องมารักต้น พูดแบบนี้อาจมีเสียงแย้งลอยมาว่า คนเรามันรักกันได้โดยไม่ต้องมีเหตุผลมากนักหรอก
แต่อย่าลืมว่านี่เป็นหนังรัก…คนดูจำเป็นต้องร่วมรู้และร่วมรับความรู้สึกนี้ไปพร้อมกับตัวละครค่ะแต่ไม่เป็นไร ข้ามจุดนั้นไปก่อน เพราะอย่างไรเสีย หนังบังคับคนดูไว้แล้วว่า เดี๋ยวต้นจะต้องรักกับดิว แม้ว่าเราจะยังไม่ได้ประทับใจในการก่อตัวของความรักของคนทั้งสองอย่างเพียงพอหนังมีการปูเหตุการณ์สำคัญหรือองค์ประกอบเล็กๆที่ดูท่าว่าจะพัฒนาไปให้น่าสนใจกว่านี้ได้ แต่ก็ถูกหยุดค้างไว้เพียงเท่านั้น ไม่ได้สานต่อให้ถึงแก่น เช่น วิถีชีวิตของคนเมืองกับต่างจังหวัด การเขียนอีเมล์กับการเขียนจดหมาย ความสัมพันธ์ของคนจริงกับการแช็ต ฯลฯท่ามกลางความไม่เนียนสนิทของบท เพราะถูกบังคับด้วยโครงสร้างเก่า
ซึ่งคนดูฉบับประเทศไทยไม่มีทางรู้ว่าที่มาของฉบับเกาหลีนั้นเป็นอย่างไรได้ลดทอน, เป็นโจทย์บังคับ และอาจจะปิดกั้นความสามารถของคนเขียนบทอยู่พอสมควร ทำให้หลายองค์ประกอบที่ถูกสร้างขึ้น ไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์มากเท่าที่ควร เช่น ความหมายและความสำคัญของการเขียนจดหมาย ความแตกต่างระหว่างอีเมล์กับจดหมายกระดาษ และลีลาของการเขียน “จดหมายรัก” ในแบบเก่าก่อน ที่ต้นค้นพบจากจดหมายรักสมัยคุณยายของดิวและ “สารัตถะ” ของการเขียนจดหมายในรูปของจดหมายที่ใช้กระดาษกับปากกาเขียน ก็ยังไม่ได้ถูกนำมาเป็น “ตัวช่วย” ให้ขับเน้นความสำคัญของความหมายในการเป็น “จดหมาย” ได้มากเพียงพอแต่กระนั้นก็ตาม
The Letter เป็นหนังไทยที่มีงานสร้างในระดับที่สมบูรณ์มาก แม้ว่าไวยากรณ์ทางภาพยนตร์จะไม่ได้ถูกใช้อย่างเต็มที่ อันนี้ไม่ใช่เพราะมีอคติว่าผู้กำกับมาจากสายละคร หรือเชื่อว่าภาษาหนังต้องสวิงสวายเข้าไว้ แต่ภาษาหนังนั้นต่อให้แช่กล้องนิ่งไว้เฉยๆ ก็เป็นงานที่ทรงพลังทางไวยากรณ์ภาพยนตร์ได้ ถ้าสิ่งที่อยู่ในเฟรมได้รับการถ่ายทอดอย่างทรงพลังและมีความหมายในแง่ของการกำกับการแสดง ต้องยอมรับว่าผู้กำกับมีความแม่นยำในการกำกับนักแสดง และขับเน้นอารมณ์คนดูให้คล้อยตามไปยังจุดต่างๆที่ราวกับว่าได้มีการกาเครื่องหมายดอกจันไว้แล้วว่า ตรงนี้ต้องน้ำตาปริ่ม ตรงนี้ต้องร้องไห้แล้วนะ หรือ ตรงนี้ต้องร้องไห้โฮเลยนี่เป็นหนังไทยอีกเรื่องหนึ่งที่ใช้ประโยชน์จากฝีมือของนักแสดงบ้านเราอย่างเต็มที่ ทั้ง อรรถพร ธีมากร และ แอน ทองประสม ซึ่งรายหลังนั้น ถ้าขาดเธอเสีย หนังเรื่องนี้จะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร