ดูหนังออนไลน์
ค้นหาหนัง

สี้น 3 ต่อน Could Be Him (2019)

สี้น 3 ต่อน  Could Be Him
Youtube Video

หมวดหมู่ : หนังตลก , หนังไทย , หนังโรแมนติก , หนังแอคชั่น

เรื่องย่อ : สี้น 3 ต่อน Could Be Him (2019)

ชื่อภาพยนตร์ : Could Be Him  สี้น 3 ต่อน
แนว/ประเภท : ตลก(Comedy), รัก โรแมนติก(Romance)
ผู้กำกับ : อาทิตย์ ศรีภูมิ(ผู้อำนวยการสร้าง)
บทภาพยนตร์ : บั้งไฟทีม
นักแสดง : เต๋า เศรษฐพงศ์ เพียงพอ(Setthapong Phiangphor), ริท เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช(Ruangrit Siripanich), ป๊อบปี้ ชนม์นิภา วิเศษสุด(Chonnipha Wisetsood), หม่ำ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา(Petchtai Wongkamlao)
วันที่เข้าฉาย :  28 มีนาคม 2562

 
 
 
 
เรื่องราวของ ผิผ่วน (ป๊อบปี้ ชนม์นิภา) พยาบาลสาวประจำศูนย์ฟื้นฟูผู้ป่วยทางสมอง ที่เพิ่งผ่านพ้นการฟื้นฟูจิตใจตัวเองจากอาการอกหักมาไม่นานก็มีคนอาสาเข้ามาดามใจ แต่สวยระดับนี้จะมาธรรมดาแค่หนึ่งดูจะน้อยไป...จัดมาสองเลยดีกว่า คนแรกคือ สีโห (เต๋า เศรษฐพงศ์) วิศวกรหนุ่มหล่อการงานดีที่บังเอิญมาเจอผิผ่วนเพราะมาตรวจไซด์งาน ส่วนคนที่ 2 จิหล่อ (ริท เรืองฤทธิ์) เจ้าของร้านอาหารกิจการกำลังรุ่งที่มุ่งเอาดีทั้งเรื่องงานและเรื่องรัก เรื่องยังวุ่นเพิ่มขึ้นไปอีกเมื่อความจริงแล้วทั้ง 2 หนุ่ม เป็นเพื่อนสนิทกัน ทีแรกทั้งสองไม่รู้ว่าหญิงสาวที่กำลังตามจีบนั้นคือผู้หญิงคนเดียวกัน แต่ในที่สุดความจริงก็เปิดเผยเมื่อสีโหกับจิหล่อรู้ความจริงว่าผู้หญิงที่หมายตาคือ คนเดียวกัน เอาละซี ความอลวนไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้แล้ว ศึกชิงนางระหว่างเพื่อนทั้งสองจึงระเบิดขึ้น ทั้งสองงัดเอาสารพัดวิธีเพื่อเอาชนะใจผิผ่วน ยิ่งทั้งคู่รุกหนักขึ้นมัดใจสาวเจ้าเท่าใด ในใจกลับรับรู้ได้ถึงใครบางคนที่ยังคงยึดครองพื้นที่ในหัวใจของเธอไว้แบบไม่เสื่อมคลาย
 
รีวิว สี้น 3 ต่อน สานตำนาน "หม่ำมองถาด" ยิงมุกกระจายไม่เน้นเล่าเรื่อง

IMDB : tt10022864

คะแนน : 0

รับชม : 3299 ครั้ง

เล่น : 1059 ครั้ง



 

Could Be Him (2019) สี้น 3 ต่อน

ว่ากันถึงหนังในจักรวาลบั้งไฟฟิล์มยูนิเวิร์ส ของ หม่ำ จ๊กม๊ก ในยุคที่มาทำหนังป้อนให้กับเอ็ม พิคเจอร์ส จะพบความเปลี่ยนแปลงสำคัญๆที่ต่างจากหนังยุคเริ่มแรกที่อยู่กับ สหมงคลฟิล์ม จากเดิมที่หนังพี่หม่ำมักจะมีเส้นเรื่อง มีตัวละคร ที่เดินตามเส้นเรื่อง โดยมีมุกมาเป็นส่วนเสริมการเล่าเรื่อง แต่พอมายุคหลัง เมื่อเปลี่ยนนายทุนแนวคิดของพี่หม่ำและทีมบั้งไฟก็เริ่มมาในทิศทางตรงกันข้าม เริ่มตั้งแต่ ส่มภัคเสี่ยน ที่เห็นได้ชัดเลยว่า บทหนังถูกสร้างมาเพื่อรองรับ มุกตลก ที่ถูกยิงกันแทบไม่มีเว้นทั้งเรื่อง และการนำนักร้องที่เป็นลูกอีสานดังๆทั้ง โตโน่ เดอะสตาร์ หรือ ไข่มุก เดอะวอยซ์ รวมถึง สุนารี ราชสีมา และ เพชร สหรัตน์ มานำแสดงเพื่อเซอร์วิสเหล่าคนดูชาวอีสานจนกวาดรายได้ถล่มบ็อกซ์ออฟฟิศกันม่วนซื่น และหลังจากปลายปีที่ปล่อย ขุนบันลือ ที่พี่หม่ำมั่นใจถึงขนาดเอาเรื่องที่ตัวเองถูกแซวในรายการชิงร้อยชิงล้านมาผูกเรื่องทำหนังขายแล้ว ก็ได้เวลาผลักดันทีมงานในบั้งไฟฟิล์มให้ได้มีหนังของตัวเองกันบ้างใน สี้นสามต่อน แต่พี่หม่ำก็ยังแอบใส่ตัวเองเข้ามาเป็นตัวขโมยซีนอยู่ทั้งเรื่องอยู่ดีนะ 555

Chonnipha Wisetsood in It Could Be Him (2019)

 

สำหรับบทหนังของ สี้น3ต่อน ก็แทบเดินตามแนว โรแมนติก คอมเมดี้ เหมือน ส่มภัคเสี่ยน แต่ลงตัวกว่าด้วยการขายเรื่องราวศึกพิชิตใจสาวของสองหนุ่ม จิหล่อ และ สีโห ที่พยายามตามจีบ ผิผ่วน พยาบาลในศูนย์ฟื้นฟูคนไข้โรคอัลไซเมอร์ (เหมือนเป็นการเซ็ตแบคกราวด์ล้อตัวละครที่กลับลืมคนรักเก่าไม่ลงได้ดีเหมือนกัน) โดยแต่ละคนก็พยายามงัดไม้เด็ดต่างสไตล์ โดย จิหล่อ เน้นความสม่ำเสมอ ทำทุกอย่างให้สาวประทับใจแม้ตัวเองจะมีเพียงร้านอาหารตามสั่งและมอเตอร์ไซค์ส่งของ ส่วน สีโห ผู้เพียบพร้อมมีทั้งรถหรู และหน้าที่การงานดีระดับผู้บริหารก็หมั่นเทียวไล้เทียวขื่อ รับสาวเจ้าไปทานอาหารหรูๆ เอาใจกันสุดๆ ซึ่งการที่หนังให้ตัวเลือกผิผ่วน เป็นผู้ชายเพียบพร้อมสองคนก็ย่อมนำมาสู่คำถามสำคัญว่า ทำไมเธอไม่เลือกใครสักคน และเธอกำลังรอใครอยู่อันเป็นเหมือน ปริศนา สำคัญให้คนดูร่วมกันตามหาคำตอบ (เพราะตอนต้นเรื่องเราจะไม่ได้เห็นหน้าแฟนเก่าที่เดินจาก ผิผ่วนไปเพื่อสร้างเซอร์ไพรส์ในจุดหักมุม) ซึ่งนั่นทำให้ชื่อเรื่อง สี้น 3 ต่อนสื่อความหมายถึงคำว่า เนื้อคี่ เพราะ สี้น ก็คือ เนื้อวัว ถ้ามี 3 ชิ้น (ต่อน) ก็ไม่ใช่ เนื้อคู่ เป็นการเล่นคำภาษาอีสานให้ดูมีลูกเล่นสร้างความฉงนสนเท่ห์ดีเหมือนกัน และการนำลูกอีสานตั้งแต่ เต๋า เศรษฐพงศ์ และ หมอริท เรืองฤทธิ์ ที่มีฐานแฟนคลับอยู่แล้ว และดัน ป๊อบปี้ ชนม์นิภา ดาวมหาลัย ม.ขอนแก่น ก็ยังเป็นการนำของดีอีสานมาสร้างมูลค่าอย่างชาญฉลาดไม่น้อย 

และอย่างที่เตือนไว้ข้างต้น ว่าหนังไม่ได้เน้นเล่าเรื่อง ดังนั้นหากใครคาดหวังจะได้ดูหนังที่เดินเรื่องแบบมีตรรกะ มีคำคมกระแทกใจ หรือให้แง่คิดด้านความรักลึกซึ้งขอให้ข้ามหนังเรื่องนี้ได้เลย เพราะหนังเน้นมุกเป็นหลัก ปู-ชง-ตบ มาตัดต่อกันแบบสถานการณ์ต่อสถานการณ์มองทาจ (Montage – ตัดต่อหลายๆเหตุการณ์มารวมกัน) เหมือนเรื่องตลกสั้นๆในหนังสือรวมมุก แต่กระนั้นสิ่งที่น่าสังเกตสำหรับมุกในสี้น3ต่อน คือหนังเน้นเล่นมุกอยู่ 3 ประเภท คือ 1. มุกเซอร์ไพรส์ ตอนปูมุกคือให้เข้าใจไปอย่างแต่กลับหักมุมเฉลยในช็อตต่อมาเช่น มุกคนตาบอด ที่แท้จริงเป็นเพียงชายใส่แว่นกันแดด หรือมุกเมียโดนรถชนแต่แท้จริงคือ … (อุบไว้ไปดูเองจ้า)หรือแม้กระทั่งให้ยายเป็นอัลไซเมอร์มาพูดด่าพระที่เป็นลูกชายเป็นต้น 2. มุกคาแรกเตอร์ผิดคาด อันนี้เน้นไปที่ ผิผ่วน กับมุกคนสวยกินจุ ที่หนังดูจะเน้นมาก หรือ มุกที่ให้ตัวละครของ รุ่งลาวัณย์ โทนะหงษา หรืออดีตนักแสดงหนูหิ่น เล่นเป็นพยาบาลไม่สวยแต่กลับมีลูกน้องของจิหล่อมาตามจีบ ซึ่งมุกแบบนี้น่าจะถูกใจสาวๆมากทีเดียว และ สุดท้ายมุกเอาใจแฟนคลับพี่หม่ำและ ศิลปินรับเชิญ อันนี้ไม่ต้องแคร์ตรรกะเรื่อง พี่หม่ำโผล่มาในฐานะตัวขโมยซีน ที่ไม่ต้องมีชื่อ ไม่ต้องบอกว่ามีผลต่อเรื่องราวอย่างไร บ้างก็คนเดียว บ้างก็หนีบพี่มด เมียรักมาโชว์ตัวในแบคกราวด์ (ซึ่งก็ทั้งฮาและแป๊กแต่ก็แอบคิดว่าพี่หม่ำไม่ไว้ใจไม่มั่นใจในเรื่องที่ทีมกำลังเล่าหรืออย่างไรเหมือนกันนะ) รวมไปถึง การเชิญเพชร สหรัตน์ มารับบทพระ ซี่งพี่หม่ำก็จัดเต็มล้อเรื่องข่าวที่เขาเลิกกับ ตั๊กแตน ชลดา ด่าสาดเสียเทเสีย ซึ่งหากใครไม่ทราบข้อมูลมาก่อนก็อาจจะไม่ขำนะ ซึ่งโดยภาพรวมหนังก็มุกฮาและแป๊กปะปนกันไปครับ ไม่น่าเบื่อแต่ก็พูดไม่ได้เต็มปากว่าหนังฮาระเบิดระเบ้ออะไรมากมาย 

จุดดึงดูดสำคัญของหนัง หนีไม่พ้น หมอริท และ เต๋า ที่ในเรื่องดูหล่อ น่ารัก ยิ่งพูดอีสานด้วยยิ่งมีเสน่ห์มาก เรียกได้ว่าหนังน่าจะได้เงินจากแฟนคลับแน่ๆ ส่วน ป๊อบปี้ ก็ยังน่าเสียดายนอกจากความสวยแล้ว เสน่ห์ทางการแสดงเธอยังไม่เปล่งประกายนัก ผิดกับ เอ็กซ์ วัชรพงษ์ ที่นอกจากโชว์เสียงร้องเพราะๆ ยังเปล่งประกายเสน่ห์แบบหนุ่มบ้านนอก จิ๊กโก๋นิดๆ และเล่นมุกต่างๆได้อย่างพริ้วไหวทีเดียว ไม่แปลกใจเลยที่พี่หม่ำดูจะพยายามแจ้งเกิดให้เขาให้ได้ในหลายฉากของสี้น3ต่อน

 

Chonnipha Wisetsood, Ruangrit Siripanich, and Setthapong Phiangphor in It Could Be Him (2019)