หมวดหมู่ :
หนังแอคชั่น
,
หนังสยองขวัญ
,
หนังแฟนตาซี
เรื่องย่อ : Abraham Lincoln: Vampire Hunter ประธานาธิบดี ลินคอล์น นักล่าแวมไพร์ (2012) พากย์ไทย
ชื่อภาพยนตร์ : Abraham Lincoln: Vampire Hunter ประธานาธิบดี ลินคอล์น นักล่าแวมไพร์
แนว/ประเภท : Action, Fantasy, Horror
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Timur Bekmambetov
บทภาพยนตร์ : Seth Grahame-Smith
นักแสดง : Benjamin Walker, Rufus Sewell, Dominic Cooper
วันที่ออกฉาย : 5 July 2012
เรื่องราวการขุดสำรวจชีวิตลับของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้ยิ่งใหญ่ รวมถึงเรื่องราวของการก่อตั้งประเทศที่ไม่ถูกเปิดเผย ผู้สร้างภาพยนตร์แห่งจินตนาการ ทิม เบอร์ตัน และ ไทเมอร์ เบ็คแมมบีทอฟ (ผู้กำกับเรื่อง Wanted) ได้มอบความแปลกใหม่และมุมมองภาพที่แข็งแรง มาสู่ตำนานแห่งความกระหายเลือดที่มีการเล่าขานกันของแวมไพร์ในแง่มุมของลินคอล์น ในฐานะที่เขาเป็นนักล่าอมตะผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์
IMDB : tt1611224
คะแนน : 5.9
รับชม : 9257 ครั้ง
เล่น : 4071 ครั้ง
Abraham Lincoln: Vampire Hunter: ประธานาธิบดี ลินคอล์น นักล่าแวมไพร์ (2012)
Abraham Lincoln: Vampire Hunter (ประธานาธิบดี ลินคอล์น นักล่าแวมไพร์) คืนวันที่ข้าพเจ้าล่าแวมไพร์ ทั้งบิดเบือนประวัติศาสตร์ ทั้งสโลว์โมชั่น ทั้งขวานเงินพิฆาต ทั้งประธานาธิบดีโชว์บู๊ ทั้งหมดทั้งมวลหนังเรื่องนี้จัดให้เต็มๆ
“รัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน” คือวลีอมตะที่ประธานาธิบดีคนที่ 16 แห่งสหรัฐอเมริกา อับราฮัม ลินคอล์น (สามารถอ่านเป็นภาษาทิงลิชว่า เอบราแฮม ลิงเคิน) ท่านได้รับการยกย่องว่าเป็นประธานาธิบดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ด้วยการผลักดันมาตรการเลิกทาสตั้งแต่ช่วงหาเสียงใหม่ๆแล้วได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ แต่ด้วยเหตุจากการประกาศเลิกทาสของท่านเองทำให้รัฐทางตอนใต้ ที่จำต้องใช้แรงงานทาสในงานด้านเกษตรกรรมขนาดใหญ่อย่างมากไม่พอใจ แล้วทำการแยกตัวออกไปถึง 13 รัฐ ก่อตั้งเป็นสมาพันธรัฐอเมริกา แล้วจากนั้นสงครามระหว่างฝ่ายเหนือและฝ่ายตายก็เริ่มต้นขึ้น (สงครามกลางเมือง) จนกระทั่งไปสิ้นสุดลงด้วยชัยชนะของฝ่ายเหนือในวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ.1865 แล้ว ลินคอล์น ก็ได้บรรจุมาตรการเลิกทาสลงในรัฐธรรมนูญในปีนั้นเอง แล้วหลังจากนั้น อับราฮัม ลินคอล์น ก็ถูกสังหารเสียชีวิต เมื่อไม่นานมานี้มีการค้นพบบันทึกลับของท่านที่เก็บซ่อนมานาน แล้วมันก็ได้รับการเปิดเผย ตีพิมพ์ ออกมากลายเป็นหนังสือขายดีมากๆ ผู้ค้นพบเรื่องราวที่ว่าก็คือ เซธ แกรแฮม-สมิธ ส่วนสถานที่ที่เขาไปเจอบันทึกลับของท่านประธานาธิบดีน่ะเหรอ ก็ในหัวเขาเองไง
เซธ แกรแฮม-สมิธ มีความสามารถในการสร้างเรื่องราวที่บิดเบือนประวัติศาสตร์ไปได้ดีมากๆ เขาได้เล่าเรื่องราวอีกด้านหนึ่งของท่านประธานาธิบดีคนนี้ออกมาได้น่าสนใจ แล้วน่าติดตาม ด้วยเนื้อเรื่องง่ายๆแต่ไม่ได้มีใครเขาคาดคิดกันอย่าง หากตัว อับราฮัม ลินคอร์น จริงๆแล้วเป็น นักล่าแวมไพร์ล่ะ มันจะดูเป็นอะไรที่น่าสนใจแล้วหรือยัง หนังสือของเขาในชื่อ Abraham Lincoln: Vampire Hunter ในชื่อไทยที่แปลแล้วก็คือ คืนวันที่ข้าพเจ้าล่าแวมไพร์: บันทึกลับเอบลาฮัม ลิงคอล์น แน่นอนว่าด้วยความดังของหนังสือมีหรือที่การจะไปสร้างเป็นภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่จะเป็นเรื่องที่ยาก ด้วยพล๊อตเรื่องที่ไปเข้าตา ทิม เบอร์ตัน ผู้กำกับสุดมืดมนเข้าอย่างจัง เขาเลยไปลากเอา ทิมอร์ เบกเมมเบตอฟ ที่กำลังครุ่นคิดกับ Wanted 2 ให้มากำกับหนังเรื่องนี้ก่อน ส่วนเขา (ทิม) จะอำนวยการสร้างให้เอง ด้วยเหตุนี้เราจึงได้เห็นเรื่องราวอันบิดเบือนประวัติศาตร์ของสหรัฐอเมริกาเป็นหนังฟอร์มโตใน Abraham Lincoln: Vampire Hunter ชื่อแบบเดียวกับหนังสือนั้นเอง
เรื่องราวในตัวหนังจะเล่าเรื่องราวตั้งแต่เด็กของ อับราฮัม ว่าเพราะเหตุใดที่เขาไม่อยากให้มีทาส เขาอยากให้ประชาชนทุกคนในสหรัฐมีความเท่าเทียมกัน ด้วยภาพอันบาดตาบาดใจ ของการค้าทาสไปยังรัฐทางตอนใต้ ซึ่งทาสที่ถูกส่งไปเป็นพ่อและแม่ ของเพื่อนสนิทของเขาเอง นั้นอาจเป็นจุดเริ่มต้นในการอยากทำเพื่อความทัดเทียม แต่เรื่องราวมาเกิดขึ้นจริงๆจนทำให้เขามีแรงพลักดันตอนเมื่อ แม่ของเขาถูกแวมไพร์นาม แจ็ค บาร์ท สังหาร เมื่อเขาเติบใหญ่เขาจึงออกตามหาล่าเหล่าแวมไพร์ โดยมี เฮนรี่ สเตอร์เจส แวมไพร์ที่คอยสั่งสอนเขาให้รู้จักการสังหารแวมไพร์ให้ถูกวิธี อับราฮัม มีอาวุธเพียบสำหรับการล่าสังหารเหล่าแวมไพร์ แต่อาวุธที่ดูจะเข้ามือกับเขามากที่สุดเห็นจะเป็น ขวานอาบเงิน ที่ไล่สับแหลกมานักต่อนัก หลังจากที่ได้แก้แค้นให้แม่สำเร็จ เขาหันมาศึกษากฎหมายอย่างจริงจังเพื่ออยากเป็นทนายความ แต่ด้วยพลังอันมุ่งมั่นในตัวเขา ทำให้เขาได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีคนที่ 16 แห่งสหรัฐอเมริกาในวัย 50 ปี ทิ้งขวานและภารกิจการล่าแวมไพร์ไว้เบื้องหลัง ด้วยแรงผลักดันเรื่องมาตรการเลิกทาส แน่นอนว่าทางตอนใต้ของสหรัฐต้องไม่พอใจ รวมไปถึงหัวหน้าเหล่าแวมไพร์อย่าง อดัม กับ ลินคอล์น และน้องสาวของเขา มาโดมา แน่ละใครจะไปยอมอาหารอย่างพวกทาสที่หากันได้ง่ายๆก็จะไม่มีอีกต่อไปน่ะซิ อดัม จึงเข้าร่วมกับกลุ่มสมาพันธรัฐอเมริกานำกองกำลังแวมไพร์เข้าร่วมรบกับฝ่ายเหนือที่บัญชาการโดย อับราฮัม ลินคอล์น แล้วเหตุการณ์จะเป็นเช่นไรต่อไปต้องไปติดตามครับ
ด้วยความที่ในตัวหนังเองมีเรื่องราวของประวัติศาสตร์ของสหรัฐพอสมควรผมจึงขอเขียนเรื่องราวที่มาให้อ่านกันเยอะหน่อยว่าเพราะอะไรสงครามกลางเมืองจึงเกิดขึ้น แล้วด้วยเหตุการณ์แบบนี้เองที่ เซธ แกรแฮม-สมิธ ได้ทำการเพิ่มเติมเรื่องราวของแวมไพร์ลงไปได้อย่างลงตัว เก่งจริงๆอีตานี้ ส่วนการนำเอามาสร้างเป็นภาพยนตร์นั้นตัวหนังทำออกมาได้ดี ไม่มาก ไม่น้อย พอกลางๆ ขอแบ่งออกเป็น 3 องค์น่ะครับ
องค์แรกของหนังเป็นช่วงปูเรื่องราวตั้งแต่เด็กของ อับราฮัม ลินคอล์น สู่การเป็นไปเด็กฝึกหัดของ แวมไพร์ เฮนรี่ ก่อนจะได้ออกไปแฝงตัวเพื่อรับคำสั่งในการสังหารแวมไพร์ องค์แรกนี้เป็นอะไรที่โดดมากๆ เนื้อเรื่องตัดไปมาอย่างรวดเร็วชนิดที่นั่งดูเองยังมึนๆ จะมาสะดุดเอาก็ฉากแอคชั่นที่น่าตื่นเต้น การต่อสู้ของ ลินคอล์น กับ แวมไพร์ เป็นอะไรที่ทำให้ตัวหนังไม่น่าเบื่อจนเกินไป แต่เนื้อเรื่องเร็วมากๆครับ แม่ตาย เกิดความแค้น ไปฝึกวิชา ออกล่าแวมไพร์ พบความรัก ล้างแค้นสำเร็จ เพื่อนรักวัยเด็กโดนแวมไพร์จับ ไปช่วย หนีจากการตามล่าของ แวมไพร์ตัวพ่ออย่าง อดัม ครับ จบแล้วสำหรับองค์แรก
องค์ที่สองของหนังเป็นช่วงที่เข้มข้นมากๆ เป็นช่วงหลังจากที่ อับราฮัม ได้รับเลือกให้เป็น ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเรียบร้อยแล้ว แต่เขาต้องเผชิญกับสงครามกลางเมือง ซึ่งอดัมได้นำขบวนทัพแวมไพร์เข้าร่วมกับฝ่ายใต้แล้ว งานนี้เป็นทิ่ตกและกังวลอย่างมากสำหรับฝ่ายเหนือและลินคอล์นเองว่าจะจบเรื่องราวนี้ยังไง การถ่ายทอดในองค์ที่สองของหนังทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม เรื่องราวแน่นมากๆ ทำให้ได้เห็นมุมที่น่าสงสารของ ลินคอล์น เองที่ต้องแบกรับหน้าที่ความรับผิดชอบของประเทศเอาไว้ องค์สองของหนังเองไม่ได้มีฉากแอคชั่นให้เห็นมีเพียงฉากสงครามการรบกันเท่านั้น การแสดงของ เบนจามิน วอล์คเกอร์ ในบทบาท ลินคอล์น ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมในช่วงนี้
องค์ที่สาม เป็นองค์สุดท้ายที่จัดกระหน่ำความมันส์เต็มรูปแบบ บนรถไฟหัวไอน้ำ ที่ อับลาฮัม ลินคอล์น และเพื่อนคนสนิททั้ง 2 อย่าง วิล และ สปีด ร่วมด้วยช่วยกัน ขนอาวุธที่ทำจากเงินลงไปช่วยทหารฝ่ายเหนือเอาไว้ปราบแวมไพร์ แต่มีหรือจะไปได้ง่ายๆ เมื่ออดัม ได้เตรียมแผนมากวาดล้างเงินเหล่านี้แล้ว คิวการต่อสู้บนรถไฟเป็นอะไรที่สนุกมากๆ เร้าใจมากๆ แม้จะปวดปัสสาวะอย่างหนัก แต่ผมก็มิอาจจะลุกไปไหนได้เลย ตัวยังติดเก้าอี้อยู่ (แหมมันส์มากๆเลยน่ะ) จนมาสิ้นสุดที่รางรถไฟถล่ม แล้วอดัม ก็ถูกทำลายโดนหมัดเดียวของ ลินคอล์น แน่นอนว่าบทจะไปก็ไปดีเลย พ่อแวมไพร์ ต่อจากนั้นเรื่องราวก็อิงตามประวัติศาสตร์ เมื่อฝ่ายเหนือสามารถเอาชนะฝ่ายใต้ไปได้ แล้วลินคอล์น ก็ไปดูละครกับภรรยาอย่างสบายใจ ก่อนที่เขาจะถูกสังหารในโรงละครนั้นเอง
เฉลี่ยออกมาเป็นช่วงๆอย่างที่บอกว่าหนังมันดี ไม่มาก ไม่น้อย จนเกินไป การแสดงของ เบนจามิน วอล์กเกอร์ สามารถรับหน้าที่ได้อย่างอยู่หมัด การควงขวานแบบพลิ้วไหวของเขาทำได้ยอดเยี่ยม แต่ที่สุดยอดจริงๆคือการแสดงในช่วงองค์สองของตัวหนัง ที่เขาทำได้ยอดเยี่ยมจริงๆครับ นักแสดงสมทบคนอื่นๆก็ทำได้ดีเช่นกัน ทั้ง โดมินนิค คูเปอร์ ที่มาเป็นผู้ฝึกสอนการล่าแวมไพร์นาม เฮนรี่ ซึ่งจริงๆแล้วเขามีปมเหมือนกันว่าทำไมเขาเป็นแวมไพร์ เขาต้องการล้างแค้นอดัมที่พรากคนรักของเขาไปแล้วทำให้เขาเป็นแบบนี้ แต่ด้วยกฎที่ว่าแวมไพร์ฆ่ากันเองไม่ได้ เขาจึงขอยืมมือ ลินคอล์น ให้จัดการเรื่องนี้ที ผู้ช่วยเหลืออย่าง วิล ที่เป็นทาสผิวสีเพื่อนรักของ ลินคอล์น แต่วัยเด็ก รับบทโดย แอนโธนี่ แมคกี้ รับบทได้เรื่อยๆครับไม่หวือหวา แต่ที่ทำได้ดีพอสมควรเลยก็ จิมมี่ ซิมป์สัน ในบท สปีด ผู้ให้ความช่วยเหลือ ลินคอล์น ตอนต้นสำหรับที่พักแล้วติดตามเขาไปตลอด สำหรับนางเอกของเรื่องอย่าง แมร์รี่ ทอด ลินคอล์น ภรรยาจริงๆของ ลินคอล์น เอง รับบทไปโดย แมร์รี่ เอลิซาเบธ วินสตีด ทำหน้าที่ได้ดีครับ มีมุมดราม่าในองค์ที่สองกับ วอล์คเกอร์ ได้อย่างน่าพอใจ ทางด้านตัวร้ายของเรื่องอย่าง อดัม ที่รับบทโดย รูฟัส ซีเวล ดูจะมีมิติเดียวไปหน่อยไม่มีอะไรให้น่าค้นหาเลย
จุดขายของหนังจริงๆน่าจะเป็นฉากแอคชั่นขายความล้ำของ ทิมอร์ เบกเมมเบตอฟ ที่สร้างชื่อกระฉ่อนมาจาก Wanted ที่เรื่องนั้นแกได้สร้างฉากแอคชั่นมันส์ล้ำๆไว้เยอะ ยกตัวอย่างเช่น กระสุนไซด์โค้ง เป็นต้น ในเรื่องนี้เขาก็จัดเต็มกับขวานอาบเงิน ซีจีที่แทบจะเห็นเต็มไปหมดในตัวหนัง แต่สิ่งที่น่าจดจำกลับไม่มีอะไรเลย แอคชั่นล้ำก็จริงแต่มันไม่น่าจดจำผ่านแล้วผ่านไป ขนาดตอนสุดท้ายของฉากรถไฟ ใช่ครับมันสนุก มันมันส์ แต่มันก็จบลงแค่นั้นจริงๆ แต่สิ่งที่ทำได้ดีแล้วน่าจดจำกลับกลายมาเป็นช่วงชีวิตการบัชชาการในระหว่างสงครามกลางเมืองมากกว่า
เป็นหนังอีกเรื่องที่คอแอคชั่นเพียวไม่น่าพลาดได้ สนุก มันส์ ดี เพลินๆได้เรื่อยๆ แต่ก่อนจะไปดูหากไม่กลัวที่จะงง ลองอ่านประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสงครามกลางเมืองดูซักหน่อยจะทำให้เข้าใจในตัวหนังเองมากขึ้นครับ