หมวดหมู่ : หนังดราม่า , หนังแอคชั่น , หนังประวัติศาสตร์ , หนังระทึกขวัญ
เรื่องย่อ : Munich มิวนิค ปฏิบัติการความพิโรธของพระเจ้า (2005) พากย์ไทย บรรยายไทย
ชื่อภาพยนตร์ : Munich มิวนิค ปฏิบัติการความพิโรธของพระเจ้า
แนว/ประเภท : Action, History, Drama
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Steven Spielberg
บทภาพยนตร์ : Tony Kushner, Eric Roth
นักแสดง : Eric Bana, Daniel Craig, Marie-Josée Croze
วันที่ออกฉาย : 13 September 2019
เดือนกันยายน ปี 1972 การโจมตีของผู้ก่อการร้ายในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนได้ถูกตีแผ่สดๆ ต่อหน้าคนดูโทรทัศน์กว่า 900 ล้านคนทั่วโลก และนำมาซึ่งโลกใหม่แห่งความรุนแรงที่คาดเดาไม่ได้ แอฟเนอร์ (อีริก บาน่า) เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองหนุ่มชาวอิสราเอลผู้รักชาติ แอฟเนอร์ที่ยังคงเศร้าสลดไปกับเหตุการณ์สังหารโหดที่มิวนิค รู้สึกโกรธแค้นไปกับความรุนแรงของเหตุการณ์นี้ เขาแฝงตัวเพื่อปฏิบัติภารกิจตามล่าและลงมือฆ่าคนจำนวน 11 คนที่ถูกกล่าวหาโดยหน่วยข่าวกรองของอิสราเอลว่าเป็นผู้วางแผนเหตุการณ์สังหารโหดที่มิวนิค
IMDB : tt0408306
คะแนน : 7.5
รับชม : 5454 ครั้ง
เล่น : 2037 ครั้ง
ขึ้นชื่อว่าหนังเกี่ยวกับการก่อการร้ายของตะวันตกก็น่าสนใจอยู่แล้ว และถูกนำมาตีแผ่สร้างเป็นหนังไม่รู้กี่เรื่อง นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่อิงจากเหตุการณ์ก่อการร้ายที่มิวนิค นำมาสู่การแก้แค้นกันไปมาของสองประเทศ โต้กันไปมาเหมือนจะไม่มีวันจบสิ้น ดูจบแล้วก็หดหู่ครับ หนังให้ความรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ความโหดร้ายในหนังจากภาพคนสองเชื้อชาติไล่สังหารกัน ...ด้วยบรรยากาศของหนังทีขมุกขมัว ไม่น่าไว้วางใจ หนังพยายามตั้งคำถามกับคนดูประมาณว่า การเข่นฆ่ากัน โต้กลับไปมาแบบนี้มันจะยุติได้จริงหรือ มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่โตจนถึงที่ว่า มันจะไม่สิ้นสุดเพยงแค่เหตุการณ์ในหนังนี้
หนังมาในแนวจารกรรม ระทึกขวัญ ผสมกับดราม่า อีกหนึ่งหนังดีของสตีเว่น สปีลเบิร์ก ที่ผมมองข้ามไป เท่าที่สังเกตจากการตามงานของสปีลเบิร์ก คนที่ได้ชื่อว่า ‘พ่อมดแห่งฮอลลีวูด’ สปีลเบิร์กเป็นคนที่ทำฉากระทึกขวัญได้ลุ้นระทึกและน่าติดตามมาก ในหลายๆ เรื่องที่ผ่านมา สังเกตได้ว่ามันจะมีลูกล่อลูกชนให้คนดูระส่ำระส่ายก่อน เหมือนวางปูให้คนดูได้รับรู้ก่อนว่าตรงนี้มันจะมีอะไรยังไง อะไรจะเกิดขึ้น ก่อนที่จะใส่ความผิดพลาดแบบไม่ได้ตั้งใจเข้ามา ให้คนดูตื่นเต้นกันเล่นๆ
คนดูจะได้พบกับปฏิบัติสังหารเป้าหมาย ที่ทั้งทรหดและไม่น่าไว้วางใจ ภาพรุนแรงโหดร้าย รู้สึกเหมือนหนังเรื่องนี้จะถ่ายทำด้วยฟิล์มนะครับเพราะสังเกตภาพสั่นเครือนิดๆ มีเกรนหน่อยๆ ก็เข้าใจว่าเพื่อให้อารมณ์ที่สมจริง ...และหนังสปีลเบิร์กอีกหนึ่งเอกลักษณ์เลยคือ ในหนังจัดแสงได้ดีมากครับ ลองสังเกตดูกัน ...หนังอาจจะยาวถึง 160 นาที แต่คุ้มแน่นอนกับการชม เพราะมันจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ชวนลุ้นระทึกเรื่อยๆ บางช่วงพลังงานอาจดร็อปลง แต่ก็มีฉากเด็ดๆ ซีนที่ชวนลุ้นมาตลอด และช่วงท้ายๆ หลังจากจบภารกิจแล้ว หนังดูจะยืดยาดออกไปอีกสักนิด แต่ก็เชื่อได้เลยว่า คนดูจะได้เห็นสภาพจิตใจของคนที่รับหน้าที่ไปสังหารคนชาติอื่น ซึ่งมันให้ความหดหู่มากๆ เลยครับ
คนดูจะได้พบกับปฏิบัติสังหารเป้าหมาย ที่ทั้งทรหดและไม่น่าไว้วางใจ ภาพรุนแรงโหดร้าย รู้สึกเหมือนหนังเรื่องนี้จะถ่ายทำด้วยฟิล์มนะครับเพราะสังเกตภาพสั่นเครือนิดๆ มีเกรนหน่อยๆ ก็เข้าใจว่าเพื่อให้อารมณ์ที่สมจริง ...และหนังสปีลเบิร์กอีกหนึ่งเอกลักษณ์เลยคือ ในหนังจัดแสงได้ดีมากครับ ลองสังเกตดูกัน ...หนังอาจจะยาวถึง 160 นาที แต่คุ้มแน่นอนกับการชม เพราะมันจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ชวนลุ้นระทึกเรื่อยๆ บางช่วงพลังงานอาจดร็อปลง แต่ก็มีฉากเด็ดๆ ซีนที่ชวนลุ้นมาตลอด และช่วงท้ายๆ หลังจากจบภารกิจแล้ว หนังดูจะยืดยาดออกไปอีกสักนิด แต่ก็เชื่อได้เลยว่า คนดูจะได้เห็นสภาพจิตใจของคนที่รับหน้าที่ไปสังหารคนชาติอื่น ซึ่งมันให้ความหดหู่มากๆ เลยครับ