หมวดหมู่ : หนังดราม่า , หนังโรแมนติก
เรื่องย่อ : Before Sunset ตะวันไม่สิ้นแสง แรงรักไม่จาง (2004) บรรยายไทย
ชื่อภาพยนตร์ : Before Sunset ตะวันไม่สิ้นแสง แรงรักไม่จาง
แนว/ประเภท : Drama, Romance
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Richard Linklater
บทภาพยนตร์ : Richard Linklater, Julie Delpy
นักแสดง : Ethan Hawke, Julie Delpy, Vernon Dobtcheff
วันที่ออกฉาย : 30 July 2004
หลังการพบกันของสองคนแปลกหน้าบนรถไฟ เจสซี่ หนุ่มอเมริกัน กับ เซลีน สาวฝรั่งเศส ใช้เวลาชั่วข้ามคืนร่วมกันที่เวียนนา ทั้งคู่กลับมาพบกันอีกครั้งใน 9 ปีถัดมา เมื่อเจสซี่เดินทางมาโปรโมทหนังสือของเขาที่ปารีสและได้สานต่อบทสนทนากับเซลีนในช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่เขาจะต้องไปสนามบิน
IMDB : tt0381681
คะแนน : 8
รับชม : 7257 ครั้ง
เล่น : 2895 ครั้ง
เอาจริงๆการจะดูไตรภาคนี้ให้สนุกคือการที่เว้นตามระยะจริงของหนังก็คือทุก 9 ปี แต่เราคงรอขนาดนั้นไม่ไหวเลยเปลี่ยนมาเป็นทุกปีแทน555 เราจำได้ว่าเราชอบภาคแรกมากเลยแหละ มันมีบรรยากาศบางอย่างที่ดูเบาสบายอ่ะ ถึงแม้ทั้งเรื่องจะมีแต่การเดินไปเรื่อยๆ พูดไปเรื่อยๆ หยุดพักที่นู่นที่นี่บ้าง แต่มันก็สนุกอ่ะ แล้วคือไดอะล็อคดีมาก บทดีมาก ซึ่งไม่ต้องห่วงสำหรับภาคนี้ เรากลับชอบภาคนี้มากกว่าภาคที่แล้วอีก มันมีความโตขึ้น คุยในโทปิคที่แบบ หนักขึ้น ดราม่ามากขึ้น
พูดถึงเรื่องการเดินตามเมืองก่อน อย่างภาคที่แล้วเป็นการเดินตอนกลางคืนเวียนนา ส่วนในภาคนี้หนังจะพาเราไปสัมผัสกับยามย่ำรุ่งของปารีส คือภาคนี้ก็ยังเดินเหมือนเดิม ซึ่งเราชอบบรรยากาศแบบนั้นมาก มันดูเก่าดี555 เอาจริงๆคือเมืองสวยมาก ในเรื่องมีทั้งเดินตามตึก นั่งร้านกาแฟน ขึ้นเรือ นั่งรถ คือพาเราสัมผัสบรรยากาศสุดๆ ยิ่งพอมาประกอบกับเรื่องมันยิ่งแบบ ให้ความรู้สึกหนาวๆเหงาๆ เข้ากันสุดๆ
การแสดงเข้ากันได้ดีมาก คือเคมีดีมาก และสิ่งที่สัมผัสได้ชัดเจนเลยคือภาคนี้ซีลีนมีเสน่ห์ขึ้นมาก ไม่ใช่ตัวละครผู้หญิงทั่วๆไปแต่เป็นตัวละครที่สัมผัสได้จริงและมีมิติมากๆ สัมผัสได้เลยว่าโตขึ้นจากภาคก่อนมากๆ ทางด้านความคิดคือเปลี่ยนไปเลย เป็นผู้หญิงที่พร้อมจะเป็นแม่ พร้อมจะดูแลครอบครัว ในส่วนฝ่ายชายก็เช่นกัน แต่ไม่ได้มีการพัฒนาทางด้านตัวละครขนาดนั้น แต่พอสองคนนี้มาเข้าซีนกันแล้วมันก็ดูเข้ากันสุดๆ เข้ากันมากกว่าภาคก่อนอีก
ในเรื่องบท ในตอนแรกที่เรื่องเริ่ม เรานึกว่าจะไม่ชอบภาคนี้ เพราะมันเอื่อยมาก แต่พอเริ่มไปนานๆเข้าทั้งคู่ก็ดูชินมากขึ้นทำให้เปิดใจพูดในทอปิคหลายๆอย่างมากขึ้น ซึ่งมันเหมือนเราได้พูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติอ่ะ เป็นหนังที่ทำให้เราคิดตามเขามากๆ แล้วหนังก็พาเราเข้าพาร์ทดราม่าในช่วงสุดท้าย กับเหตุผลที่ว่าทำไมซีลีนถึงไม่ไปตามนัดวันนั้นและมันส่งผลยังไงต่อทั้งสองคนบ้าง คือพาร์ทนี้คือแบบ มันเป็นดราม่าที่ไม่เวิ่นเว้อ มันไม่ได้บีบน้ำตา มันไม่ได้บิ้วเราว่าแบบเธอต้องร้องไห้นะ แต่เราแค่ซึมๆ เพราะนึกไปว่าถ้าวันนั้นทั้งสองคนเจอกันอีกครั้งวันนี้จะเป็นยังไงกันนะ วันนี้ทั้งสองคนจะได้อยู่ด้วยกัน มีครอบครัว และทั้งคู่จะมีความสุขมากกว่านี้ไหม แต่ขณะเดียวกันเราก็นึกภาพไปถึงทั้งคู่ที่กลับทะเลาะและจากแยกกันและพบว่าการมาบังเอิญพบกันหลังจาก 9 ปีดูเป็นทางที่ดีมากกว่า มันแบบ เป็นแค่ภาพจินตนาการที่เราไม่รู้ว่ามันจะฝันหวานไหม แต่ถ้าเลือกได้เราก็อยากให้เขาได้เจอกัน
สรุปเป็นหนังรักที่สุดๆอ่ะ คือเราว่าเราชอบภาคนี้มากกว่าอีก เพราะการย้อนกลับไปถึงช่วงก่อนหน้านี้ และความรู้สึกของทั้งคู่ คือมันเป็นอะไรที่เรียลและจับต้องได้มากๆอ่ะ พาร์ทดราม่าที่ไม่ได้ตั้งใจขยี้แต่บรรยากาศกับบทพูดมันพาอารมณ์เราไปเอง แค่ได้ชมเมืองปารีสสวยๆกับฟังไดอะล็อคแล้วคิดตามก็ยิ่งกว่าอะไรแล้วล่ะ เราว่านี่เป็นหนังรักอันดับต้นๆเลยแหละ ดีงามมาก