หมวดหมู่ :
หนังแอคชั่น
,
หนังดราม่า
,
หนังผจญภัย
,
หนังระทึกขวัญ
เรื่องย่อ : Kursk คูร์ส หนีตายโคตรนรกรัสเซีย (2018) [พากย์ไทย บรรยายไทย]
ชื่อภาพยนตร์ : Kursk หนีตายโคตรนรกรัสเซีย
แนว/ประเภท : Action, Adventure, Drama
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Thomas Vinterberg
บทภาพยนตร์ : Robert Rodat, Robert Moore
นักแสดง : Matthias Schoenaerts, Léa Seydoux, Peter Simonischek
วันที่ออกฉาย : 6 September 2018
เรื่องย่อ : Kursk (2018) หนีตายโคตรนรกรัสเซีย Kursk คูร์สหนีตายโคตรนรกรัสเซีย สร้างจากเหตุการณ์เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ K-141 ระเบิด และจมลงสู่ก้นทะเลบาเรนต์เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2000 เป็นเหตุให้ลูกเรือชาวรัสเซียเสียชีวิต 118 ศพ ลูกเรือที่รอดชีวิตจากการระเบิด 23 คน ต้องต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดกันเอง นาทีต่อนาทีก่อนที่ออกซิเจนจะหมด เพราะรัฐบาลรัสเซียยังปฏิเสธความช่วยเหลือจากรัฐบาลนานาประเทศ ทำให้ครอบครัวลูกเรือต้องต่อสู้กับระบบราชการเพื่อช่วยชีวิตคนที่พวกเขารักถึงแม้โอกาสมันจะริบหรี่แค่ไหนก็ตาม
IMDB : tt4951982
คะแนน : 6.5
รับชม : 5160 ครั้ง
เล่น : 2089 ครั้ง
หนังเรือดำน้ำไม่ใช่ของแปลกใหม่แต่อย่างใด เราเคยผ่านตาทั้งหนังเรือดำน้ำในสงครามโลกครั้งที่ 2 ในตำนานทั้ง Das Boot (1981) และ U571 (2000) หนังเรือดำน้ำยึดที่กัปตันยึดอำนาจกันเองในช่วงสงครามอ่าวอย่าง Crimson Tide (1995) หรือกระทั่งหนังแอ็คชั่นเรือดำน้ำดูเอามันที่เพิ่งผ่านตาเราไปไม่นานอย่าง Hunter Killer (2018) แต่ความน่าสนใจของ Kursk คงหนีไม่พ้นการหยิบเอาข่าวเรือดำน้ำอัปปางเมื่อปี 2000 มาสร้างเป็นภาพยนตร์
ยิ่งไปกว่านั้นหนังยังให้เวลาเราน้อยมากในการทำความรู้จักเหล่าทหารเรือ แม้ว่าหนังแทบจะลอกการเปิดเรื่องมาจาก The Deer Hunter (1978) ด้วยการสร้างฉากงานแต่งเพื่อปูพื้นความเป็นพี่เป็นน้องในหมู่ทหารเรือรัสเซียก็ตาม แต่กลับไม่ทำให้เราลึกซึ้งในสายสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนที่ดูจริงใจจนอยากเอาใจช่วยเท่าใดนัก และแม้หน้าหนังจะพยายามปั้นด้วยดาราดังทั้ง โคลิน เฟิร์ธ หรือ ลีอา เซย์ดูซ์ แต่เอาเข้าจริงบททั้ง 2 นี่เอาใครเล่นก็ได้โดยเฉพาะบทผู้การรัสเซลที่แทบจะกลายเป็นตัวประกอบในทุกฉาก หรือ ลีอา เซย์ดูซ์ ที่เพิ่มน้ำหนักเล่นเป็นคนท้องก็ดันให้เวลาปูความสัมพันธ์น้อยเหลือเกินจนเราแทบจับอะไรเธอไม่ได้เลย ยิ่งหนังดำเนินเรื่องอย่างสะเปะสะปะ และนานเกินเหตุกว่าเครื่องจะติดก็ทำให้ Kursk กลายเป็นหนังที่ดูผิดฟอร์มไปหมดจะระทึกก็ไม่ จะดราม่าก็อ่อนจนกลายเป็นหนังเรือดำน้ำที่ไม่ได้สนองความบันเทิงเท่าใดนัก