หมวดหมู่ : หนังดราม่า , หนังชีวประวัติ , หนังเกี่ยวกับดนตรี
เรื่องย่อ : Bohemian Rhapsody โบฮีเมียน แรปโซดี (2018) [พากย์ไทย บรรยายไทย]
ชื่อภาพยนตร์ : Bohemian Rhapsody โบฮีเมียน แรปโซดี
แนว/ประเภท : Biography, Drama, Music
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Bryan Singer
บทภาพยนตร์ : Anthony McCarten, Peter Morgan
นักแสดง : Rami Malek, Lucy Boynton, Gwilym Lee
วันที่ออกฉาย : 24 October 2018
ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบฟังเพลงควีน ชอบวงควีนหรือเฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ นี่คือหนังที่คุณไม่ควรพลาด และจะมีความสุขไปกับ 134 นาทีของหนัง ที่จะทำให้ได้รับรู้เรื่องราวในแง่มุมที่ไม่เคยรู้เห็นมาก่อนอย่างเช่น เฟรดดี้ เคยมีความรักกับผู้หญิง และเขาไม่สมาชิกดั้งเดิมของวง ได้เห็นเบื้องหลังการสร้างสรรค์บทเพลงอมตะอย่าง Bohemian Rhapsody ที่กว่าจะสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย ได้รู้ที่มาของเพลงฮิตอย่าง We Will Rock You , Another One Bite Of Dust ที่มาจากมันสมองของไบรอัน เมย์ และ จอห์น ดีคอน ไม่ใช่ว่าทุกเพลงฮิตจะมาจากเฟรดดี้ เมอร์คิวรี่เท่านั้น ถึงแม้ว่าเขาคือมันสมองและเป็นสีสันฉูดฉาดของวง
IMDB : tt1727824
คะแนน : 8
รับชม : 1208 ครั้ง
เล่น : 458 ครั้ง
ถึงแม้ว่าในขั้นตอนสร้างจะมีข้อโต้แย้งจากสมาชิกควีนทั้ง 3 จากความไม่พอใจในบทร่างแรก ที่เล่าแต่เพียงตัวเฟรดดี้ เมอร์คิวรี่เป็นหลัก และสมาชิกที่เหลือเป็นเพียงส่วนประกอบ แต่ในเวอร์ชั่นสุดท้ายที่ออกฉายก็ยังคงเป็นเรื่องราวของเฟรดดี้ เมอร์คิวรี่เป็นหลักอยู่เช่นเดิม ที่หนังย้อนไปเล่าตั้งแต่วันที่เฟรดดี้ ยังเป็นพนักงานขนกระเป๋าในสนามบิน จนมาขอสมัครเป็นนักร้องนำของวง และนับเป็นจุดเปลี่ยนจากวงโนเนมที่เล่นในผับ กลายเป็นวงที่ฮอตที่สุดในโลกในวันนั้น หนังเล่าชีวิตส่วนตัวของเฟรดดี้ ทั้งเรื่องความรัก และพัฒนาการจากชายรักหญิง กลายเป็นรักร่วมเพศ บรรยากาศภายในครอบครัวที่เป็นลูกชายที่พ่อแม่ฝากความหวังไว้สูง การก้าวจากมนุษย์นอกสายตากลายเป็นเป้าสายตาของคนทั่วโลก และการเติบโตแบบก้าวกระโดดของควีน ทุกอย่างเล่าผ่านสายตาของเฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ เท่านั้น โดยมีสมาชิกในวงอีก 3 คนเป็นองค์ประกอบรายรอบ
บทหนังไม่แม้แต่จะเล่าที่มาที่ไปของแต่ละคน แต่หนังก็ถ่ายทอดภาพลักษณ์ของสมาชิกออกมาในทางดีงาม สมาชิกทุกคนล้วนมีความสามารถ มีเพลงฮิตที่แต่ละคนได้เขียน มีความรักและห่วงใยเพื่อนร่วมวงทุกคนดังกับคนในครอบครัว มีช่วงเวลาที่มีความสุขร่วมกันและเช่นกันก็มีช่วงที่มีปากเสียงกัน แต่สุดท้ายก็ยอมให้อภัยเพื่อนเสมอ แม้หนังจะวางเฟรดดี้ ไว้เป็นจุดศูนย์กลางของเรื่องแต่หนังก็เผยให้เห็นด้านร้ายของเฟรดดี้ด้วยเช่นกัน
ก่อนชมก็ตั้งข้อสงสัยไว้พอควรว่าหนังชีวประวัติเรื่องหนึ่งจะเล่าอะไรมากมาย หนังถึงยาวตั้ง 2 ชั่วโมง14 นาที แต่พอได้ชมก็เห็นได้ชัดว่าหนังอัดเรื่องราวไว้แน่นมาก เพราะเล่าเรื่องราวของวงตั้งแต่วันก่อตั้งวง จนถึงจุดสูงสุดของวงในระยะเวลา 15 ปีแต่ต้องยัดทุกอย่างลงมาในเวลา 2 ชั่วโมงกว่า จึงไม่มีนาทีไหนเลยที่รู้สึกว่าเยิ่นเย้อจนสมควรตัดออกไป และยังขาดเรื่องราวอีกหลายส่วนที่ไม่ได้เล่าหรือบางแง่มุมที่มีเวลาพอเล่าได้แค่เพียงผิวเผิน ทั้งแบคกราวด์ทางด้านดนตรีของเฟรดดี้ ที่เริ่มมาก็เก่งอยู่แล้ว และแง่มุมทางด้านรักร่วมเพศที่เป็นต้นเหตุที่เฟรดดี้ตายก็ไม่ได้ลงลึก ไม่ให้เห็นนิสัยการชอบเปลี่ยนคู่นอนของเฟรดดี้ ก็นับว่าเป็นการเล่าเรื่องราวของเฟรดดี้อย่างเคารพซึ่งก็ไม่ได้ทำให้ Bohemian Rhapsody กลายเป็นหนังเกย์ไปด้วย แต่นี่ก็คือมุมมองของผู้เขียนที่เติบโตมากับเพลงควีนในยุคที่วงโด่งดังถึงขีดสุด ได้ดูถ่ายทอดสด Live Aid ทางทีวี จึงรู้สึกรื่นรมย์ยินดีไปกับภาพและเพลงที่ปรากฏบนจอในทุก ๆ นาที
รู้สึกชื่นชมกับความพยายามและตั้งใจของรามิ มาเล็ก ที่ทำการบ้านมาดีมากกับการเลียนท่าทางบนเวทีของเฟรดดี้ มาได้เหมือนเป๊ะทุกการเคลื่อนไหว และมีหลาย ๆ มุมที่ดูเหมือนเฟรดดี้อยู่มาก แต่ที่ชวนทึ่งสุดคือการเสาะหาตัว กวิลิม ลี มารับบทเป็นไบรอัน เมย์ ที่เหมือนตัวจริงมาก ๆ และการจำลองบรรยากาศความยิ่งใหญ่ของเวทีไลฟ์เอดให้กลับมาดูมีชีวิตอีกครั้ง เคยเห็นสเปเชียลเอฟเฟ็คต์ของฮอลลีวู้ดมาจนชินแต่ครั้งนี้กับการสร้างภาพผู้ชมในสนามเวมบลีย์นับหมื่นที่โห่ร้องเพลงควีนกึกก้องไปทั้งสนาม ก็ถ่ายทอดบรรยากาศออกมาได้สมจริงมาก
ด้วยความมั่นใจของฟอกซ์ว่าชื่อของเฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ ยังคงเรียกความสนใจจากแฟนเพลงควีนให้ตีตั๋วมาดูหนังได้แน่นอน หนังจึงไม่จ่ายค่าตัวให้กับดารามีชื่อสักคนเดียว มากันแบบโนเนมล้วน ๆ มีเพียงรามิ มาเล็ก ดาราที่ดังจากซีรีส์ Mr.robot และเพิ่งรับบทนำใน Papillion ไปแค่นั้นมารับบทเป็นเฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ ซึ่งก็ยังไม่ถึงขั้นเป็นชื่อที่เรียกคนดูได้ นอกนั้นที่พอรู้จักก็มี ไอแดน กิลเล็น ผู้รับบท”นิ้วก้อย” จาก Game Of Thrones และที่อยากให้จับตามองคือ ไมค์ ไมเยอร์ อดีตดาราตลกชื่อดังจาก Austin Powers มารับบท เรย์ ฟอสเตอร์ ผู้บริหารค่ายEMI ที่ไมค์ กลับมาในลุคที่จำไม่ได้เลย เขาเลือกที่จะมาร่วมแสดงในเรื่องนี้ เพราะครั้งหนึ่ง Wayne’s World หนังฮิตของเขาก็ใช้เพลง Bohemian Rhapsody ในเทรลเลอร์หนังและในฉากสำคัญของหนัง
หนังได้ 2 มือเขียนบทมารับหน้าที่ ปีเตอร์ มอร์แกน และ แอนโธนี แม็คคาร์เธ็น เป็น 2 คนที่เหมาะมากกับการมารับงานเขียนบทให้เรื่องนี้ เพราะทั้งคู่เป็นมือระดับเข้าชิงออสการ์กันมาแล้วมากกว่า 1 ครั้งอีกยังเชียวชาญมากกับการเขียนบทหนังชีวประวัติกันมาแล้วหลายเรื่อง ปีเตอร์ เคยเขียน The Queen ,The Last King of Scotland และ Frost/nixon ส่วนแอนโธนี เพิ่งเขียน Darkest Hour หนังเมื่อปีที่แล้วนี่เอง และ The Theory of Everything หนังชีวประวัติ สตีเฟน ฮอว์คกิง แล้วทั้งคู่ก็ถ่ายทอดเรื่องราวของ Bohemian Rhapsody ออกมาได้อย่างน่าติดตาม แต่ก็เฉพาะคนที่รักควีนเท่านั้นล่ะ
แต่ถ้ามองผ่านสายตาคนที่รู้จักควีนเพียงผิวเผิน ไม่ได้สนใจเพลงและเรื่องราวของควีนเป็นพิเศษ การที่ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงมานั่งดูชีวิตของนักร้องเกย์คนหนึ่ง ที่รู้จุดจบของเขากันดีอยู่แล้ว กับเรื่องราวที่แทบจะราบเรียบ ไม่มีวิกฤติหรือปริศนาในเส้นเรื่องให้ชวนลุ้นหาคำตอบ แม้หนังจะฝากแง่คิดที่น่าสนใจของความรักและการให้อภัยแก่กัน ผลร้ายของการถูกอีโก้ครอบงำอยู่ชั่วขณะ แต่กระนั้น Bohemian Rhapsody ก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่คนไม่ใช่แฟนควีนจะพึงพอใจนัก
Bohemian Rhapsody เป็นส่วนผสมที่ลงตัวของหนังดราม่าชีวประวัติกับหนังเพลง แม้จะเป็นเรื่องราวของวงควีน ได้ฟังเพลงฮิตมากมายบนจอ แต่หนังก็ไม่ได้อัดเพลงมาแน่นจนเกินไป ไม่มีเพลงไหนที่ใส่มาเต็ม ๆ จนจบเพลง แต่ก็ไปปล่อยเต็มในฉากไลฟ์เอดท้ายเรื่องที่ให้เราได้ฟังควีนเล่นหลายเพลงฮิตยาวเป็นเมดเลย์กันแบบจุใจ รักเฟรดดี้ ชอบควีน ไม่ควรพลาดครับ