หมวดหมู่ : หนังสยองขวัญ , หนังระทึกขวัญ
เรื่องย่อ : Hell Fest สวนสนุกนรก (2018) [พากย์ไทย บรรยายไทย]
ชื่อภาพยนตร์ : Hell Fest สวนสนุกนรก
แนว/ประเภท : Horror, Thriller
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Gregory Plotkin
บทภาพยนตร์ : Seth M. Sherwood, Blair Butler
นักแสดง : Bex Taylor-Klaus, Reign Edwards, Amy Forsyth
วันที่ออกฉาย : 27 September 2018
เรื่องย่อ : เรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่องภายใต้หน้ากาก ที่เปลี่ยนสวนสนุกให้มีธีมสยองขวัญเป็นเหมือนสนามเด็กเล่นของเขาเอง ทำให้กลุ่มเพื่อน ๆ หวาดกลัวขณะที่คนอื่น ๆ ที่เป็นลูกค้าเชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง ทำให้สามสาว ผู้เคราะห์ร้ายที่หลงเข้าต้องช่วยเหลือกันหาทางเอาชีวิตรอดออกมาให้ได้
IMDB : tt1999890
คะแนน : 5.5
รับชม : 4801 ครั้ง
เล่น : 2027 ครั้ง
หนังแนวฆาตกรโรคจิตสวมหน้ากากแล้วตามฆ่าเหล่าวัยรุ่นคึกคะนองที่มีศัพท์เรียกกันว่า Slash Film เป็นแนวที่นิยมสร้างกันมากในยุค 80s – 90s ห่างหายจากจอหนังไปนานพอสมควร แล้ววันนี้ก็มี Hell Fest หนังสยองขวัญเรื่องล่าที่พาเรากลับไปสัมผัสบรรยากาศสยองเดิม ๆ อีกครั้ง กลับฆาตกรสวมหน้ากากรายใหม่ ที่มาตามฆ่ากลุ่มวัยรุ่น โดยเลือกสถานที่ให้เป็นสวนสนุกสยอง เพื่อเพิ่มความน่ากลัวได้มากขึ้นไปอีกกับบรรยากาศรอบข้าง
เปิดเรื่องด้วยการแนะนำตัวละครนำเป็นกลุ่มวัยรุ่นชาย 3 หญิง 3 เพื่อนสมัยไฮสคูลที่แยกย้ายกันไปพักใหญ่และได้กลับมารวมกลุ่มกันอีกครั้ง ทั้ง 6 ย้อนอดีตด้วยการพากันไปเที่ยวสวนสนุก Hell Fest ที่เต็มไปด้วยบ้านผีหลายหลังให้เข้าไปกรี๊ดกัน นาตาลี ในบทนำของเรื่อง เป็นเพื่อนสาวที่ไปเรียนต่อในรัฐอื่นแล้วได้กลับมาเยี่ยมเพื่อนในเทศกาลฮัลโลวีน ซึ่งบรรดาเพื่อน ๆ ก็ถือโอกาสจัดฉากให้แนตได้มาเจอกับเกวิน คู่รักคู่ลุ้นสมัยไฮสคูลอีกครั้ง หนังใช้เวลาช่วงต้นพาเราไปสัมผัสภาพรวมกว้าง ๆ ของสวนสนุก hell fest ซึ่งดูก็น่าสนุกตามไปด้วย กับบรรยากาศแบบงานวัดฝรั่ง มีขนมขาย มียิงปืน และที่น่าสนุกมากคือทีมงานจำนวนมากแต่งชุดผีได้น่ากลัวแล้วคอยวิ่งมาแกล้ง หรือกระโดดจากมุมมืดมาแกล้งให้ตกใจ ไม่นานนักหนังก็เริ่มเข้าหาสูตรสำเร็จของ slash film เมื่อเริ่มมีสมาชิกในกลุ่มแยกตัวออกไป และแน่นอนต้องตกเป็นเหยื่อของฆาตกรโรคจิต และจุดที่ทำให้ hell fest ได้แตกต่างจากหนังสยองขวัญเรื่องอื่นคือเมื่อฆาตกรหน้ากากผีสังหารเหยื่อท่ามกลางฝูงชน ก็ไม่มีใครแตกตื่นเพราะคิดว่านี่คือโชว์หนึ่งของสวนสนุก แต่หนังก็กลับไม่ได้นำจุดนี้มาเน้นสักเท่าใดนัก
ทำใจไว้แล้วว่าหนังแนวนี้ บรรดาตัวละครมักจะต้องทำเรื่องโง่ ๆ ให้ตัวเองซวยแล้วก็ต้องตกเป็นเหยื่อของฆาตกรโรคจิตแบบน่าสมน้ำหน้า แต่สุดท้ายก็ยังหงุดหงิดกับบทที่ยังคงเขียนให้บรรดาตัวละครทำเรื่องโง่ ๆ ฝืนพื้นฐานมนุษย์ครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วด้วยวัยของนักแสดงที่ทีมงานแคสต์มาแต่ละคนก็ดูเป็นวัยทำงานมากกว่าจะเป็นวัยรุ่นที่มาวิ่งกรี๊ด ๆ ในงานแบบนี้ อีกทั้งจุดสำคัญสุดอย่างฆาตกรสวมหน้ากากที่ถูกเพิกเฉยกับที่มาที่ไปไม่บอกเล่าสาเหตุว่าทำไมเขาถึงมีความโกรธแค้นกับเหล่าวัยรุ่นถึงกับต้องฆ่าทิ้งอย่างไร้เหตุผลจูงใจ อีกทั้งความแข็งแกร่งเกินมนุษย์ และความอึดถึกอย่างกับอสุรกายที่ทั้งโดนฟาดหัวหลายครั้ง โดนแทงเข้าที่ท้องเลือดโชกแต่ก็กลับสู่สภาพปกติได้ในเวลาอันสั้น ทั้งที่หนังก็จงใจให้เห็นว่าฆาตกรรายนี้เป็นมนุษย์เช่นเรา ๆ นี่ล่ะ หาใช่ผีดิบอย่างเจสัน วอร์ฮี หรือเฟรดดี้ ครูเกอร์ หรือผู้สร้างอาจจะมั่นใจว่าแฟนหนังสยองจะต้องเคยชินกับความสามารถเหนือมนุษย์เหล่านี้ของฆาตกรสวมหน้ากาก ก็เลยเลือกที่จะไม่ลำบากหาทางอธิบายเหตุผลเหล่านี้ดีกว่า เรียกได้ว่าบทหนังเดินตามสูตรสำเร็จของหนัง slash film ยุคเก่า แต่ทำได้ด้อยกว่าด้วยซ้ำ
หนังก็มีฉากตุ้งแช่มาถี่ ๆ แต่ว่าหลาย ๆ ครั้งก็ทำให้เราตกใจด้วยเสียงซาวด์เอฟเฟกต์เสียมากกว่าตกใจด้วยภาพ คือภาพน่ะประมาณ 10-20 แต่ซาวด์นี่มาเต็มร้อยเลย บางฉากก็ดูธรรมด้าธรรมดาแต่ดนตรีประกอบนี่เล่นใหญ่ไปถึงไหนแล้ว ด้วยการขาดที่ไปที่มาของฆาตกรโรคจิตนี่ล่ะ ทำให้ตัวฆาตกรหน้ากากผีไม่สามารถสร้างรังสีอำมหิตให้กับตัวเองได้ การปรากฏตัวในแต่ละครั้งจึงไม่ค่อยชวนลุ้นเท่าที่ควรนัก เลยต้องพึ่งทั้งแสงสีเสียงมาสร้างบรรยากาศร่วม จุดที่หนังยังคงรักษามาตรฐานความสยองไว้ได้ คือฉากสังหารโหดที่เหล่าวัยรุ่นชายดวงซวยโดนกันไป แต่กลับเหยื่อฝ่ายหญิงนี่ลดดีกรีลงเยอะมาก ฉากที่ลุ้นสุดเห็นจะเป็นฉากกิโยตินนี่ล่ะ และเป็นเพียง 2-3 ฉากที่ยังเล็ดลอดมาจากตัวอย่างหนังได้ Hell Fest นี่เป็นหนังที่สมควรได้รางวัลการตัดต่อตัวอย่างหนังยอดเยี่ยม เพราะแค่ตัวอย่างหนังนี่ก็เอาฉากเด็ดมาเล่าหนังได้เกือบทั้งเรื่องแล้ว แทบไม่เหลืออะไรให้รอลุ้นในหนังจริงเอาซะเล้ย