หมวดหมู่ : หนังแอคชั่น , หนังผจญภัย , หนังสยองขวัญ , หนังตลก , หนังวิทยาศาสตร์ Sci-fi
เรื่องย่อ : The Predator เดอะ เพรดเดเทอร์ (2018) [พากย์ไทย บรรยายไทย]
ชื่อภาพยนตร์ : The Predator เดอะ เพรดเดเทอร์
แนว/ประเภท : Action, Adventure, Horror
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Shane Black
บทภาพยนตร์ : Fred Dekker, Shane Black
นักแสดง : Boyd Holbrook, Trevante Rhodes, Jacob Tremblay
วันที่ออกฉาย : 14 September 2018
The Predator เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากห้วงอวกาศอันไกลโพ้น สู่ถนนเล็ก ๆ ในย่านชานเมือง การไล่ล่ากลับมาอีกครั้ง นักล่าที่อันตรายที่สุดในจักรวาลก็แข็งแกร่งขึ้น ฉลาดขึ้น และอันตรายยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา พวกมันตัดต่อพันธุกรรมของตนเองเข้ากับดีเอ็นเอของสปีชีส์อื่น ๆ ในจักรวาล และเมื่อเด็กชายคนหนึ่งบังเอิญกระตุ้นให้พวกมันกลับมาที่โลกอีกครั้ง มีเพียงสมาชิกแร็กแท็กจากอดีตทหาร และอาจารย์สอนวิทยาศาสตร์อีกหนึ่งคนที่ไม่ได้รับการยอมรับเท่านั้น ที่จะช่วยไม่ให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ต้องสิ้นสุดลง
IMDB : tt3829266
คะแนน : 5.4
รับชม : 12931 ครั้ง
เล่น : 6110 ครั้ง
สำหรับผมแล้วตัวละครเพรดเดเตอร์ถือเป็นตัวละครในดวงใจผมเลยตอนเด็ก เพราะมันมีความเท่และยังเป็นผู้ล่าที่ไร้คู่ต่อกร ซึ่งผมก็เฝ้ารอภาคนี้มาก เพราะได้ผู้กำกับอย่าง Shane Black มากำกับ ทำให้ผมมีความหวังกับหนังซีรี่ส์นี้ขึ้นมานิดนึง
โดยมาในภาคนี้เขาจะพาเราไปรู้จักกับเพรดเดเตอร์สายพันธุ์ผสมที่ดุและโหดร้ายกว่าเดิม ที่มีเป้าหมายอะไรบางอย่าง ซึ่งเป้าหมายนั้นอยู่ที่เพรดเดเตอร์บนโลก นั่นทำให้ ควิน แมคเคนน่า (Boyd Holbrook) ได้เข้าปะทะกับเพรดเดเตอร์ทำให้เขาเสียลูกทีมไปจากการปะทะครั้งนี้และเรื่องราวก็บานปลายเมื่อชิ้นส่วนอาวุธที่ควินเก็บได้และส่งไปที่บ้าน นั่นทำให้รอรี่ (Jacob Tremblay) ลูกชายเขาซึ่งเป็นเด็กพิเศษได้แกะรหัสที่อยู่ในนั้นและทำให้เจ้าเพรดเดเตอร์ออกตามล่าเขา และนั่นก็ทำให้ควินต้องไปช่วยเหลือลูกของเขา อีกทั้งเขาก็ยังไม่รู้ว่ามีนักล่าที่โหดกว่ากำลังมาที่โลก และเหตุการณ์ทั้งหมดจะเป็นอย่างไรต่อนั้นติดตามได้ใน The Predator ทุกโรงภาพยนตร์
ถ้าให้ผมเปรียบเทียบระหว่างภาคนี้กับสองภาคแรกว่าต่างกันอย่างไร จุดแรกที่เห็นได้ชัดเจนเลยนั่นคือความคอเมดี้ในเรื่อง ที่ผมว่าเป็นจุดที่หนังทำได้ดีและเราไม่รู้สึกว่ามันไม่เข้ากับหนังเลย หนังให้ความตลก แต่ก็ยังไม่ทิ้งความเป็นแอ็คชั่น เพราะแอ็คชั่นก็จัดเต็มเช่นกัน เพียงแต่ไม่สามารถทำได้ดีเท่าส่วนของคอเมดี้ จริงอยู่ที่หนังเรื่องนี้เป็นหนังแอ็คชั่น แต่ในส่วนนี้ผมมองว่าทั้งสองภาคแรกให้ผมได้มากกว่าภาคนี้ และภาคนี้มีการเดินเรื่องที่ไวมาก แต่ก็มีให้น้ำหนักตัวละครอยู่นิดหน่อย ภาคนี้ที่ผมเสียดายคือฉากเปิดเรื่องที่ไม่น่าจดจำและก็ไม่ได้มีการเซ็ตโทนหรืออารมณ์ของหนังก่อนเลย ไม่มีการเล่าอะไรมาก เปิดมาแบบโต้งๆ เลยทำให้ผมเสียดายตรงนี้ ไหนตจะตอนจบอีกที่ผมว่ามันก็ไม่น่าจดจำ เพราะผมว่ามันน่าจะสรุปอะไรให้ได้ดีกว่านี้แต่ดันเลือกที่จะจบโดยไม่กล่าวถึงประเด็นที่หนังเล่ามาแรกๆเช่นเรื่องเพรดเดเตอร์ที่หนังอธิบายมาแบบคร่าวๆ โดยตอนจบเลือกที่จะจบแบบไม่บอกอะไรมาก แต่เป็นการโชว์ของแทน ซึ่งสำหรับผมแล้วผมสนใจตัวเพรดเดเตอร์ในเรื่องนี้มาก เพียงแต่บทมันไม่ค่อยเอื้อเลย
และในส่วนของเพรดเดเตอร์ในภาคนี้ผมก็ไม่ได้ว้าวอะไรมาก เพราะด้วยตัวบทที่ยังไม่ส่งเสริมตัวมันแล้ว ยังมีเรื่องของแอ็คชั่นของมันที่ยังขาดความฉลาดแต่เพิ่มความโหดมาแทน และที่ผมบอกว่าบทไม่ส่งเสริมเพราะว่ามันไม่ได้มีเป้าหมายที่จะมาล่าด้วยซ้ำแต่มันมีเป้าหมายอื่นที่ผมจะไม่ขอเล่าตรงนี่นะครับ นั่นแหละจึงทำให้ภาคนี่ไม่ได้เป็นการล่าแต่เป็นการเข้ามาพัวพันกับเป้าหมายของมันก็แค่นั้น ถ้าเราย้อนกลับไปในสองภาคแรกนั่นคือการล่าที่แท้จริง แต่ภาคนี้ผมมองว่าผู้กำกับพยายามทำให้มันแตกต่าง โดยใส่ความเป็นตัวเขาลงไป ซึ่งผมว่าจุดหลักๆที่หนังเรื่องนี้ไม่สามารถเทียบกับหนังสองภาคแรกได้นั่นคือแอ็คชั่น แต่จุดที่หนังแข็งแรงและเทียบสองภาคแรกได้นั่นคือตัวละคร เพราะเขาทำตัวละครออกมาได้น่าจดจำทุกคน ที่เด่นๆเลยก็เห็นจะเป็น Keegan-Michael Key ที่รับบทเป็นคอยล์ ที่เขาอาจจะได้รับบทที่ไม่เด่นนัก แต่ทุกครั้งที่ตัวละครนี้พูดมันตลกมากๆเลย ไหนจะ Thomas Janeอีก ที่ผมว่าเขาเล่นได้รั่วมาก ส่วนคนอื่นๆผมมองว่าก็ทำได้ดีไม่มีคนไหนเล่นไม่ดีเลยในความคิดผม และที่ต้องขอชมเลยนั่นคือเมคอัพอาร์ตติสที่ยลโฉมเจ้าเพรดเดเตอร์ให้ออกมาน่าเกรงขามได้ และยังมีพวกเทคโนโลยีไฮเทคที่ดูแล้วยกระดับจากภาคก่อนมากๆ และที่สำคัญเลยคือเรทหนังเรื่องนี้เป็นเรท R เราจะเห็นเลือดและอวัยวะกระจัดกระจายได้แบบสะใจแน่นอน
โดยทั้งหมดที่ผมกล่าวมานี้ก็มีทั้งส่วนที่ดีงามและส่วนที่ผมยังมองว่าด้อยอยู่ แต่ผมยังรู้สึกบันเทิงที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ ต้องบอกว่ามันเป็นหนังแอ็คชั่นที่คงสไตล์ความเป็น Shane Black อยู่ นั่นจึงทำให้หนังเรื่องนี้ดูตลกและสนุกได้ ที่ผมจะฝากจากหนังเรื่องนี้คือ อาจจะไม่ใช่ภาคที่มันที่สุดแต่เป็นภาคที่เราจะชอบตัวละครมากที่สุดครับ