หมวดหมู่ : หนังดราม่า , หนังระทึกขวัญ , หนังลึกลับซ่อนเงื่อน
เรื่องย่อ : Searching เสิร์ชหา...สูญหาย (2018) [พากย์ไทย บรรยายไทย]
ชื่อภาพยนตร์ : Searching เสิร์ชหา...สูญหาย
แนว/ประเภท : Thriller, Drama, Mystery
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Aneesh Chaganty
บทภาพยนตร์ : Aneesh Chaganty, Sev Ohanian
นักแสดง : John Cho, Debra Messing, Joseph Lee
วันที่ออกฉาย : 21 January 2018
เรื่องราวของการสืบสวนหลังจากลูกสาววัย 16 ปีของเดวิด คิม หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยภายในท้องถิ่น โดยมีการมอบหมายนักสืบคนหนึ่งให้ดูแลคดีนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป 37 ชั่วโมงก็ยังไม่มีความคืบหน้า เดวิด จึงตัดสินใจ ค้นสถานที่แห่งหนึ่งที่ยังไม่มีใครหา ที่ซึ่งเป็นที่เก็บซ่อนความลับทุกอย่าง ใน แล็ปท็อป เดวิดจะต้องตามสืบร่องรอยเหล่านั้นเพื่อคลายคดีให้สำเร็จ
IMDB : tt7668870
คะแนน : 7.7
รับชม : 525 ครั้ง
เล่น : 143 ครั้ง
ชีวิตของ เดวิด คิม (จอห์น โช) แทบมืดแปดด้านหลังการหายตัวไปของ มาร์ก็อต (มิเชล ลา)ลูกสาวสุดที่รัก และเบาะแสที่ดีที่สุดอยู่ในประวัติการออนไลน์และติดต่อบรรดาเพื่อนๆของเธอ ที่เขาอาจได้ค้นพบอีกด้านว่าลูกสาวที่เขาเลี้ยงอาจไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่องอย่างที่คิด
ทั้งฟอร์มในการเสนอผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์และปริศนาคนหาย ภาพของหนังเมื่อ 4 ปีก่อนอย่าง Unfriended (2014) ก็แจ่มชัดทันทีและพาลให้นึกไปทางลบว่าหนังคงทำออกมาตามกระแสให้ตระหนักถึงภัยโซเชียลเน็ตเวิร์คและมีจุดหักมุมกันตามคาด แต่กลับตรงกันข้ามบทหนังที่ เซฟ โอฮาเนียน (Sev Ohanian) เขียนร่วมกับ อานีช ชากันที (Aneesh Chaganty) ผู้กำกับก็วางปมและจุดหักมุมต่างๆอย่างรัดกุมจนทำให้ตลอดเวลา 102 นาทีของหนังแทบไม่มีจุดน่าเบื่อโดยสามารถดึงเบาะแสดิจิตอลหรือ ดิจิตอลฟุตปรินต์ (Digital Footprint) ของมาร์ก็อตออกมาสร้างความประหลาดใจและนำไปสู่จุดหักมุมได้เป็นอย่างดี แถมการเก็บสิ่งที่ปูไว้หรือเบาะแสที่หนังแอบเผยไต๋มาทดสอบความจำคนดูก็ทำได้กลมกล่อมพอดี เรียกได้ว่าหนังสามารถอุดช่องโหว่ต่างๆได้แบบแนบเนียน และยังหลอกทางคนดูได้ว้าวดีเหลือเกินอีกด้วย
จุดที่ผมชอบเป็นพิเศษคงหนีไม่พ้นการใช้ฟังก์ชั่น ‘เล่าเรื่องผ่านจอ’ ที่แม้หนังจะมาหลัง Unfriended หรือ Friend Request แต่ Searching กลับสามารถใช้กลไกของหน้าจอคอมในหลากหลาย OS เพื่อแบ่งยุคสมัยได้อย่างชาญฉลาดดีเหลือเกิน โดยหน้าจอ Window 95 ใช้บอกช่วงปีเกิดของ มาร์โกต์ ตั้งแต่ฉากเปิดเรื่องที่หนังใช้ฟังก์ชั่นวันที่และบันทึกเมโม่บนหน้าจอเดสก์ทอปของคุณแม่ที่จดบันทึกทุกอย่างของลูกสาวเป็นการบอกเล่าความเป็นมาของตัวละครที่มีความละเอียดและรู้จักลูกสาวตัวเองดี ทั้งเบอร์โทรติดต่อเพื่อนสนิท วีดีโอบันทึกเหตุการณ์สำคัญของมาร์โกต์ ซึ่งหนังใช้จังหวะแช่มช้าแบบความเร็วคอมพิวเตอร์สมัยก่อนมาบอกช่วงเวลาอันสุขสันต์ ที่่ต่อมามันได้กลายเป็นเบาะแสสำคัญของเดวิดในการตามหาลูกสาว
ส่วนเรื่องราวในปัจจุบันจะบอกเล่าผ่าน Mac OS ที่ตรงนี้คงต้องบอกว่าทาง SONY ใจกว้างเหลือเกินที่จะให้อิสระผู้กำกับได้บอกเล่าไอเดียตัวเองแทนที่จะยัดเยียดขายของ SONY และแน่นอนว่าด้วยความคุ้นเคยของคนดูเลยทำให้เรื่องราวดูน่าเชื่อถือ และหนังก็เลือกฟังก์ชัน เฟสไทม์ และ การโทรศัพท์ผ่าน IPhone ในการแสดงให้เห็นการปฏิสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร โดยมีการใช้ฟังก์ชันของโปรแกรมต่างๆบนหน้า เดสก์ทอป ในการให้ข้อมูล และด้วยคาแรกเตอร์ของตัวละครพ่อที่มีความลนลานและหวาดหวั่นในความปลอดภัยของลูก เราเลยได้เห็นการปิดหน้าต่างโปรแกรมโน้น เปิดโปรแกรมนี้ สร้างความตื่นเต้น ลุ้นระทึก ได้ด้วยจังหวะเปิดปิดบนหน้าจอคอม และยังได้รับข้อมูลชุดเดียวกับตัวละคร โดยไล่ตั้งแต่ Mac Book ของเดวิดที่แสดงให้เห็นว่าเขาแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับลูกสาวเลย จนกระทั่งต้องเปิด Mac Book ของลูกสาวเพื่อหาเบาะแสสำคัญก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป
และทีละน้อยเมื่อหนังเล่นกับการคอมโพสผ่านภาพจอผ่านกรอบมันยังผลักผู้ชมให้กลายเป็นผู้สังเกตการณ์ที่เหมือนได้สิทธิพิเศษในการ ‘เผือก’ เรื่องดราม่าของตัวละครในระยะประชิด ส่งผลให้แทนที่คนดูจะรู้สึกแปลกปลอมกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ในโรงหนังกลับกลายเป็นว่า เราได้สัมผัสเรื่องราวที่มีชีวิตมีเลือดเนื้อของพ่อที่พยายามสุดหัวใจในการตามหาลูกอย่างไม่ลดละ ซึ่งพลังส่วนใหญ่ก็มาจากการแสดงของจอห์น โช นั่นเอง
ยอมรับเลยว่าสิ่งที่สะดุดตาเป็นอย่างยิ่งในบรรดาหนังที่เข้าในสัปดาห์นี้ (23 สิงหาคม 2561) คือ Searching เป็นหนังอีกเรื่องนอกจาก Crazy Rich Asians (หนังรักนางซินหน้าหมวยที่ถล่มบ็อกซ์ออฟฟิศพร้อมกวาดคำชมแบบม้ามืด) ที่เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญเมื่อฮอลลีวูดเริ่มให้โอกาส คนเอเซีย รับบทนำ โดยหนังได้ จอห์น โช จากหนังชุด Star Trek ฉบับรีบูธของ เจ เจ เอบรามส์ มาเป็นจุดขายและปล่อยพลังการแสดงจนนักวิจารณ์ต้องยกนิ้วให้ โดย จอห์น โช สามารถก้าวข้ามทั้งบทนักแสดงตลกลูกครึ่งเอเซียใน Harold & Kumar และบท ซูลู จากสตาร์เทรค แบบแทบเปลี่ยนเป็นคนละคนทั้งการวางสีหน้าที่ลำดับความวิตกกังวลจากสงสัยไปจนถึงคร่ำเคร่งกับการตามเบาะแสเพื่อค้นหาลูกสาว ไปจนถึงการระเบิดอารมณ์ต่างๆก็ทำได้น่าเชื่อถือจนเป็นภาพแทนของคุณพ่อที่ชีวิตนี้คงจบสิ้นทันทีหากลูกสาวเป็นอะไรไปโดยฟอร์มหนังไอเดียจัดจ้าน หรือ ขนาดจอภาพไม่ได้เป็นปัญหาบดบังแอ็คติ้งอันยอดเยี่ยมของเขาได้เลย
หากใครกังวลว่า Searching จะเป็นหนังไซเบอร์ทริลเลอร์ที่ดูยากขอบอกเลยว่า ตัวหนังไม่ได้เอาเทคโนโลยีมาตีหัวเข้าบ้าน เพราะเอาเข้าจริงตัวหนังเองกลับเลือกนำเสนอเรื่องราวสามัญทว่าสัมผัสใจดีเหลือเกินทั้งความรัก ความห่วงใย และช่องว่างระหว่างวัยในครอบครัวท่ามกลางวิกฤติการหายตัวไปของคนสำคัญในครอบครัว และแน่นอนว่านอกจากหนังจะเล่าได้สนุกมากๆแล้ว ใครมีลูกสาวยิ่งต้องแนะนำให้มาดูเพราะเหตุการณ์แบบนี้อาจเกิดกับใครก็ได้