On My Skin รอยแผลแห่งความยุติธรรม (2018) [ บรรยายไทย ]

ใครจะไปรู้ว่าในคลังหนังสตรีมมิ่งเน็ตฟลิกซ์ (Netflix) มีหนังชั้นดีที่อยู่หลืบมุมมืด On My Sky หรือชื่อเต็มว่า”On My Skin: The Last Seven Days of Stefano Cucchi” จะพาระลึกถึงคำถามที่ผมเคยตั้งไว้ได้เพียงนี้


 

จุดที่หนังเลือกเล่าได้ฉลาด หนังตัดฉากตำรวจทำร้ายออกไป และให้คนดูตามดูผลลัพธ์ของเหตุการณ์หลังจากนั้น ไม่ว่าจะเป็นการสอบปากคำ ,บาดแผลและอาการเจ็บปวดของตัวละครสเตฟาโน่ มาแทนหลักฐานที่เกิดขึ้น และสเตฟาโน่ใช้หลักฐานเหล่านี้ในการต่อรองเพื่อขอพบทนายที่เขาอยากพบ ทว่ามีใครบ้างที่จะมาสนใจสิทธิในคุกกัน

นอกเหนือจากที่คนดูได้เห็นเนื้อเรื่องของสเตฟาโน่ที่ร่างกายสาหัสขึ้นเรื่อยๆ หนังยังเล่าฝั่งด้านนอกผ่านฝ่ายครอบครัวของเขาที่พยายามเข้าหาสเตฟาโนให้ได้แต่ระบบเจ้าหน้าที่รัฐมันช่างรัดกุมเหลือเกินโดยเฉพาะเอกสารภาครัฐที่ดำเนินไปไม่ถึงไหน สิ่งที่คนดูต่างเห็นฟ้องกันคือเรื่องของระบบที่เชื่องช้าของภาครัฐและการไม่ฟังสิทธิของคนคุก ที่ไม่สามารถอำนวยสิทธิของเหล่าตัวละครทั้งสองฝั่งได้เจอกันได้

ด้วยขั้นตอนการรอการดำเนินระบบจากภาครัฐและมองไม่เห็นถึงความเป็นมนุษย์เพราะตัวระบบได้ปิดบังตาทำให้ความหวังของตัวละครหมดลงเรื่อยๆ เหตุนี้เองคำว่า”คาฟคาเอสค์”ก็ผุดในหัวผมทันที เมื่อความต้องการของผู้คนถูกปิดกั้นด้วยระบบภาครัฐ สิ่งที่ตามมาคือบทเรียนจากความแข็งแรงของระบบและการใช้อำนาจของรัฐที่ค่อยๆบีบลมหายใจตัวละครในไม่ช้า

เท่านั้นไม่พอ หนังใช้เทคนิกภาพส่วนใหญ่เป็นแบบแกนสมมาตร สเตฟาโน่ถูกจัดให้อยู่กลางภาพ ทำให้รู้สึกชวนอึดอัดโดยเฉพาะเวลาเจ้าหน้าที่ขนาบข้างหรือยู่ระหว่างลูกกรง ตัดกับการใช้กล้องสตาดิแคมบันทึกภาพให้ออกมาดูสมจริงเหมือนสารคดีเพื่อให้รู้สึกสมจริงและชวนหายใจไม่ออก

สิ่งที่น่าปรบมือให้มากๆได้แก่ เหล่านักแสดงต่างแสดงออกมาได้สมจริง โดยเฉพาะ อเลซซานโดร เบิร์กฮี ผู้รับบทสเตฟาโน่ ผู้ชอกช้ำบาดแผล เล่นได้เจ็บและสมจริงมาก การที่เจ้าตัวกวาดรางวัลทุกที่ๆในบ้านเกิดเข้าชิงก็สมควรแล้ว

สำคัญสุดทั้งหมด หนังจะไม่ทรงพลังเลยหากหนังเรื่องนี้ไม่ได้สร้างจากเรื่องจริง ในช่วงท้ายของเครดิตมีฟุตเตสของบรรดาครอบครัวสเตฟาโนต่างเรียกร้อยสื่อมวลชนเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมแก่เขา รวมถึงคลิปบันทึกเสียงในศาลตอนที่สเตฟาโน

ถึงแม้ว่าตัวหนังจะมีบทสรุปที่คาดเดาได้ง่ายว่ามาจากเรื่องจริง สำหรับเรา On my skin เป็นประเด็นหนัง มันไม่ได้จบตามไปด้วยแถมยังพาตั้งคำถามถึงตัวระบบขั้นตอนทางกฎหมายของอิตาลีและการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างคมคาย ชวนคิดถึงชีวิตที่อยู่ภายใต้กฎที่ล่าช้าและไม่เห็นใจประชาชน พอมาแอบนึกย้อนกลับมาที่ประเทศเราแล้ว ก็แอบคิดอยู่เหมือนกันว่าบางที ชีวิตเราก็ไม่ต่างจากการอยู่ในงานของคาฟคาก็เป็นได้เช่นกัน