หมวดหมู่ : หนังวิทยาศาสตร์ Sci-fi , หนัง Netflix
เรื่องย่อ : Godzilla- City On The Edge Of Battle ก็อดซิลล่า สงครามใกล้ปะทุ (2018) [พากย์ไทย บรรยายไทย]
ชื่อภาพยนตร์ : Godzilla- City On The Edge Of Battle ก็อดซิลล่า สงครามใกล้ปะทุ
แนว/ประเภท : Action, Sci-Fi, Animation
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Hiroyuki Seshita, Kôbun Shizuno
บทภาพยนตร์ : Gen Urobuchi
นักแสดง : Mamoru Miyano, Takahiro Sakurai, Kana Hanazawa
วันที่ออกฉาย : 18 May 2018
GODZILLA: CITY ON THE EDGE OF BATTLE: อะนิเมะไตรภาคที่บ้านเรามีให้ชมกันทางเน็ทฟลิกซ์ ซึ่งเริ่มต้นที่ Godzilla: Planet of the Monsters เรื่องราวของผู้รอดชีวิตจากการยึดโลกของเหล่าสัตว์ประหลาด โดยเฉพาะก็อดซิลลา ที่มีพลังและความสามารถมากเกินกว่าเทคโนโลยีที่คิดค้นขึ้นมาจะรับมือไหว แต่หลังจากการเดินทางเร่ร่อนในอวกาศเพื่อหาดาวที่สามารถปักหลักตั้งถิ่นฐานแทนโลกล้มเหลว พวกเขาต้องเดินทางกลับมายังดาวบ้านเกิดของตัวเองอีกครั้ง หวังว่าจะสามารถใช้เป็นที่อยู่เหมือนที่เคยเป็นได้ โดยตั้งเป้าว่าจะจัดการกับสัตว์ร้ายที่ทำให้โลกกลายเป็นบ้านของมัน ภายใต้การนำของฮารุโอะ ซาซากิ
IMDB : tt8015080
คะแนน : 5.8
รับชม : 4666 ครั้ง
เล่น : 1921 ครั้ง
หากท้ายที่สุดพวกเขาก็รู้ว่า กับเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป เจ้าก็อดซิลลาก็มีพัฒนาการของมันด้วยเช่นกัน และทำให้ชัยชนะอันหอมหวานคงอยู่ได้ไม่กี่นาน มนุษย์โลกต้องพ่ายแพ้อีกครั้ง กองกำลังที่รวบรวมชาวโลกและชาวดาวอื่นๆ ที่เจอกับภัยพิบัติไม่ต่างกันที่หันหน้ามาร่วมมือกัน ต้องแตกกระเด็นเซ็นซ่าน
จากภาคแรกที่ดูเหมือนเต็มไปด้วยคำถาม City on the Edge of Battle หนังมีคำตอบให้กับหลายๆ คำถาม รวมไปถึงมาพร้อมกับความสนุกหรือตื่นเต้นที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม โดยที่ไม่ได้ละเลยคอนเส็ปท์สำคัญของก็อดซิลลา ที่ถูกวาดภาพให้เป็นผู้ทำลายล้างในช่วงเวลาที่มนุษยชาติอยู่ในช่วงที่เสื่อมทรามมากที่สุด รวมทั้งยังแสดงให้เห็นถึงอานุภาพตลอดจนบทบาทของมันมากขึ้นกว่าเดิม เช่นเดียวกับพัฒนาการของตัวละคร ที่ถูกสถานการณ์บีบคั้นให้มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
ในขณะเดียวกันก็วางเรื่องราวของความขัดแย้งเรื่องวิธีการจัดการกับก็อดซิลลา ที่ทำให้ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ต่างไปจากการสร้างสัตว์ประหลาดอีกตัวหนึ่งขึ้นมาใหม่ ที่อาจจะต้องหาทางแก้ไขกันต่อไปและต่อไปเรื่อยๆ ที่ในฉากต่อสู้ช่วงสุดท้ายของหนังก็เต็มไปด้วยเหตุการณ์พลิกผัน มีลุ้น ตลอดจนความจริงที่ถูกเปิดเผยออกมาให้เห็น
ซึ่งในแง่ความลงตัวระหว่างการเล่าเรื่องและความสนุก รวมไปถึงความเข้มข้นของเรื่องราว หนังทำได้ดีขึ้น ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยฉากหลังเอนด์ เครดิตที่เรียกร้องการติดตามได้มากกว่าที่ภาคแรกเคยทำให้รู้สึกกับภาคที่สอง