หมวดหมู่ : หนังแอคชั่น , หนังผจญภัย , หนังวิทยาศาสตร์ Sci-fi
เรื่องย่อ : Ready Player One สงครามเกมคนอัจฉริยะ (2018) [พากย์ไทย บรรยายไทย]
IMDB : tt1677720
คะแนน : 7.5
รับชม : 50580 ครั้ง
เล่น : 26751 ครั้ง
ไม่รู้จะต้องพูดอะไรมากมาย ส่วนตัวคิดว่าไม่ควรต้องเขียนรีวิวอะไรเลยด้วยซ้ำ เพราะ Ready Player One เป็นหนังที่เรียกว่าใครที่ชอบดูหนัง ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมป๊อปตั้งแต่ยุค 80 ถึงปัจจุบัน (ก็กวาดตั้งแต่ผู้ใหญ่ยันเด็กล่ะนะ) จะต้องไม่พลาดดูอย่างแน่นอน สรุปทั้งรีวิวนี้ถ้าคุณขี้เกียจอ่าน ผมแค่มาย้ำให้มั่นใจว่า ถ้ารักความบันเทิง ไปดูเลยครับ
Ready Player One เป็นหนังสือขายดีปี 2011 โดยปลายปากกาของ เออร์เนสต์ ไคลน์ ที่แฟนหนังสือหลายคนบอก สนุกและโคตรสนุก จึงไม่แปลกที่ฮอลลีวู้ดจะให้ความสนใจนำมาขึ้นจอเงิน ยิ่งตัวเนื้อเรื่องส่งเสริมการนำตัวละครฮิต ๆ มากมาย ซึ่งแต่ละตัวก็มีฐานแฟน ๆ ที่ยอมซื้อตั๋วมาดูแน่นอนอยู่แล้ว เฉกเช่นหนังฮิตรวมตัวละครจากเกมก่อนหน้าอย่าง Wreck-It Ralph (2012) ที่ยกระดับ เอามาใส่ของได้เจ๋งขึ้น ยิ่งใหญ่ขึ้น เข้มข้นขึ้น บันเทิงขึ้นไปอีก ก็ยิ่งการันตีว่าหนังต้องกวาดเงินได้อักโขแน่ ๆ
และพระเอกจากย่านสลัมของเรานามว่า เวด (ไท เชอริดาน) หรือชื่อในเกมว่า พาร์ซิวัล ก็เป็นหนึ่งในกันเนอร์ แม้เขาจะเป็นหมาป่าเดียวดายที่ไม่ยอมร่วมทีมกับใคร แต่เขาก็มีเพื่อนซี้ในเกมนาม เอช นักซ่อม รวมถึงเพื่อนของเอชอย่าง ไดโตะ ยอดซามูไรและ โช ยอดนินจา และที่สำคัญคือสาวปริศนานาม อาร์ทิมิส ผู้ซึ่งมีฉายาว่า นักฆ่าไอโอไอ กลุ่มของบริษัทกระหายอำนาจที่มีเป้าหมายในการยึดครองโลกออนไลน์เพื่อนำไปแสวงหากำไร ซึ่งบริหารโดย ซอร์เรนโต้ (เบน เมนเดลซัน) ผู้โหดเหี้ยมและเจ้าเล่ห์ที่จะใช้ทุกวิถีทาง แม้แต่ความรุนแรงในโลกความเป็นจริงเพื่อบรรลุเป้าหมายนั่นเอง
แต่ส่วนตัวที่ลองถามคนอ่านหนังสือมา คิดว่าหนังสือค่อนข้างเนิร์ดจัดหนักกว่ามาก เรียกว่าพอเอามาทำหนัง แซ็ก เพนน์ นักเขียนบทมือทองจาก The Avengers (2012) และ ไคลน์ เจ้าของนิยายก็เลยมีการเขียนบทร่วมกันแล้วรื้อเรื่องราวต่าง ๆ ไปเยอะแบบเปลี่ยนภารกิจใหม่เกือบหมด และเหล่าตัวละครก็เอาลิขสิทธิ์ตัวดัง ๆ จริง ๆ ในยุคนี้มาได้เยอะกว่าในหนังสือมาก เสียดายแค่ว่าไม่มีตัวละครฝั่งดิสนีย์อย่างพวก มาร์เวล และสตาร์วอร์ส เพราะหนังเป็นการผลิตร่วมกันระหว่าง วอเนอร์ฯ (ผู้สร้างหนังฝั่ง ดีซีคอมมิค) กับทาง ดรีมเวิร์ค นั่นเอง อีกสิ่งหนึ่งที่น่าจะเปลี่ยนไปเยอะคือความดาร์กแบบผู้ใหญ่ที่ลดลง และใส่ความสนุกบันเทิงลงไปมากขึ้นนั่นเอง
และด้วยความที่ สตีเว่น สปีลเบิร์ก เข้ามารับหน้าที่กำกับเอง มันจึงเป็นหนังที่ใช้บารมีของเจ้าพ่อฮอลลีวู้ดได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย คือต้องระดับป๋าแกจริงๆ ถึงจะคุมงานลิขสิทธิ์ที่มีแฟน ๆ รักและหวงแหน ให้ออกมาเอาอยู่ไม่ทำลายคุณค่าเดิม ๆ ยิ่งสปีลเบิร์กใส่ความคลั่งไคล้ส่วนตัวของเขาลงไปด้วยอีกจากทางฝั่งหนัง มันเลยมีลูกล่อลูกชนตื่นตาตื่นใจตลอดเวลา คือยิ่งรู้จักตัวละครเยอะคุณจะเพลินกับการดูพวกตัวละครต่าง ๆ วิ่งพล่านเป็นตัวประกอบในฉากหลังและฉากหน้าเต็มไปหมดเลย หรือบางทีพระเอกก็ทำฉากเลียนแบบพวกหนังพวกเกมดัง ๆ คำพูดคม ๆ อะไรแบบนี้อีก นี่ผมระวังการเอ่ยถึงหนังหรือเกมที่ถูกเอามาอ้างอิงมากเลยนะ ไม่อยากให้สปอยล์ เพราะทุกนาทีคือการเซอร์ไพรส์แบบไม่สิ้นสุดจริง ๆ และสำหรับแฟนสปีลเบิร์กนี่ก็บอกได้เลย นี่คือหนังที่สนุกที่สุดได้ใจคนดูที่สุดของป๋าแกในช่วง 10 ปีนี้เลยล่ะ
ข้อเสียของหนังก็มาจากความบันเทิงที่อัดแน่นของมันนี่ล่ะ เพราะเนื้อเรื่องถูกทำให้กระชับมากจนบางซีนอารมณ์ หนังก็ไม่มีเวลาให้ตัวละครได้รู้สึกเท่าไหร่ก็ต้องเข้าซีนใหม่แล้ว ทั้งยังทำให้หนังดำเนินไปด้วยเหตุบังเอิ๊ญบังเอิญแบบแฟนตาซีอยู่หลายที คือถ้าไม่จับผิดกันมากมองว่าเป็นหนังบันเทิงแบบหนังเด็กมันก็ไม่มีปัญหาอะไรมากหรอก แค่เตือนคนที่เข้าไปแสวงหาความสมบูรณ์แบบเป๊ะเว่อนี่คงมีหงุดหงิดพวกตรรกะหลายฉาก 555
ด้วยความดีงามทั้งหมดที่ไม่อาจสปอยล์ให้ฟังได้ คงให้เป็นคำแนะนำได้เพียงว่า ต้องดูเลยล่ะ และถ้ามีโอกาสใด ๆ จอไอแม็กซ์ เหมาะมากกับการดูรายละเอียดเล็ก ๆ ที่ผู้สร้างซ่อนไว้ตลอดหนังในทุก ๆ ฉาก และระบบ 3 มิติ ดีงามมาก ยิ่งเหมาะเหม็งกับเนื้อหาการพุ่งทะยานสู่โลกของเกม ที่จะได้อารมณ์แบบเดียวกับพระเอกเลย แต่ถึงดูระบบธรรมดาหนังก็สนุกมากอยู่ดี และสำหรับใครที่กังวลว่า เฮ้ย เราไม่เนิร์ด ไม่โอตาคุ ขนาดนั้นจะดูสนุกเหรอ ขอยืนยันเลยว่าต่อให้ไม่รู้จักทุกตัวละคร หนังมันก็โคตรสนุกอยู่ดีเฟร้ย ไม่ต้องกลัวเลยจ้า ดูเถอะประทับใจมาก ๆ