Duck Butter ความรักนอกกรอบ (2018) [ บรรยายไทย ]

Duck Butter Naima (Alia Shawkat) และ Sergio (Laia Costa) มีเพศสัมพันธ์เหมือนโลกกำลังจะสิ้นสุดลง พวกเขาทำมันที่บ้านของ Sergio พวกเขาทำมันที่บ้านของ Naima พวกเขาทำมันนอกในมุมมองที่อาจเกิดขึ้นของคนแปลกหน้า พวกเขานิ้วบางบนม้านั่งเปียโนและจูบระหว่าง slurps ของมะม่วง พวกเขาสร้างประสบการณ์ใหม่ของ Sergio ในการเรียนรู้ที่จะช่วยตัวเองพร้อมกับหมอนข้างลูกพี่ลูกน้องของเธอ พวกเขาสนุกกับการมีเพศสัมพันธ์ที่ร่ำรวยและพวกเขามีส่วนร่วมในการแต่งหน้าทางเพศ

หลังจากยืดตัว Naima กล่าวว่า "คุณรู้ไหมว่าเราไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ภายในเวลาสองชั่วโมง" เธอพูดอย่างสุภาพราวกับเผชิญหน้ากับเซอร์จิโอกับการแตกแยกในความสัมพันธ์ของพวกเขา เมื่อมาถึงจุดนี้เวลาไม่ถึง 36 ชั่วโมงนับตั้งแต่ที่พวกเขารู้จักกันและกัน

ช่วงเวลาที่มีเพศสัมพันธ์อย่างเข้มงวดคือกลเม็ดเด็ดขาดของ Duck Butter : ผู้หญิงสองคนที่มาพบกันที่คลับพวกเขากลับบ้านพร้อมกับเพื่อนบางคนในช่วงเวลาหลังเลิกงานเพื่อน ๆ ออกไป Naima และ Sergio fuck แล้วก็พบว่าตัวเองกำลังฝัน สนทนาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ เซอร์จิโอระลึกถึงความสัมพันธ์สามปีที่ฟุ่มเฟือยและท้ายที่สุดก็เสียเวลา พวกเขาเพ้อฝันเกี่ยวกับการเร่งกระบวนการเกี้ยวพาราสีและดำน้ำในความสัมพันธ์ "คุณไม่สามารถเล่นได้อย่างปลอดภัยในความรัก" Sergio พูดว่า "ทำทุกอย่างที่คุณต้องการในวินาทีที่คุณต้องการ" นาอิม่ากล่าว พวกเขาตั้งสมมติฐานวิธีการทำความรู้จักกันโดยการมีเพศสัมพันธ์ในแต่ละชั่วโมงในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง Naima ตัดสินใจว่าจะต้องพึ่งพาร่างกายของตัวเองมากเกินไปเพราะเธอมีการแสดง แต่หลังจากที่เธอถูกไล่ออกจากงานในเช้าวันรุ่งขึ้นเธอก็ไปที่ประตูบ้านของ Sergio ในวันนั้น และเพื่อเริ่มต้น fuckfest ของพวกเขา

เห็นได้ชัดว่าเราทุกคนกำลังคิดหาอึนี้ออกไปในขณะที่เราไป เนยเป็ดเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับความวุ่นวายของกระบวนการ

เป็นข้ออ้างที่ไร้เหตุผลอย่างที่เป็นการยั่วเย้า: "เราสามารถร่วมเพศได้เวลาข้าม" Sergio กล่าวราวกับว่าสัญญาของพวกเขาสามารถมอบพลังให้แก่พวกเขาได้มากกว่าพลังของมนุษย์ทั่วไป ลองนึกภาพว่ามีการควบคุมองค์ประกอบแบบนี้! อ่านเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อนที่จะได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้อาจเป็นเหมือนสมมติฐานที่สามารถอาศัยอยู่ในภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมในภาพยนตร์เรื่อง Mark and Jay Duplass จากภาพยนตร์เรื่อง Mumblecore ที่ได้รับความช่วยเหลือจาก Duplass Brothers Productions แต่เรื่องเคมีระหว่างคอสตากับชอว์คัตซึ่งเป็นผู้ร่วมเขียนบทภาพยนตร์กับผู้กำกับมิเกลอาร์เตต้าทำให้มันเป็นไปได้ทั้งหมด ความรุนแรงที่พวกเขามองไปที่แต่ละอื่น ๆ ด้วยใบหน้าของพวกเขาเพียงไม่กี่นิ้วความคล่องตัวกับสิ่งที่พวกเขาตีกลับอารมณ์ออกกันเหมือนพวกเขากำลังเล่นกีฬาเป็นอะไรสั้น ๆ ของเก่ง ถ้าคุณมองไปที่ความสัมพันธ์เป็นสิ่งมีชีวิตของตัวเองนิติบุคคลแยกต่างหากจากผู้เข้าร่วมที่มาร่วมกันเพื่อสร้างมัน Duck Butter คือการศึกษาตัวอักษรสำหรับทุกเพศทุกวัย ถ้ามีใครเข้าใกล้ความสัมพันธ์ก็ถูกต้องทุกคนจะทำอย่างนั้นและพวกเขาจะอยู่ด้วยกันตลอดไป เห็นได้ชัดว่าเราทุกคนกำลังคิดหาอึนี้ออกไปในขณะที่เราไป Duck Butter เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับความวุ่นวายของกระบวนการ

หนังไม่ค่อยจับตาว่าเซ็กส์จะมีความสัมพันธ์กันมากเพียงใดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาดังกล่าว Duck Butter เตือนฉันถึงภาพยนตร์เรื่องเด่นของปี 2012 เรื่อง Gaspar Noéอย่างชัดเจน Duck Butter แม้ว่าการมีส่วนร่วมในเชิงพล็อตน้อย ๆ (รวมทั้งกลุ่มเพศที่ไม่ดีไปด้วย) การทรมานและถูกทำให้เป็นโรคน้อยลง นี่เป็นภาพบวกทางเพศที่เกิดขึ้นจริงซึ่งขอให้ผู้ชมยอมรับว่าตัวเอกหญิงทั้งสองคนรักเพศ (และอาจจะกันและกัน) มากจนอยากมีส่วนร่วมในทุกวัน มันวาดภาพประเภทของทุกเพศทุกเพศทุกคืนที่คุณมักจะได้ยินเกี่ยวกับในเพลง แต่ไม่ค่อยมีประสบการณ์ในชีวิต เป็นภาพยนตร์ที่ต่อต้านการสยดสยองอย่างมากดังนั้นจึงได้รับการตั้งชื่อตามชื่อ smegma ที่เก็บรวบรวมไว้ในท่าทางของ Naima ที่ปิดการใช้งานผู้ชายที่อายุมากกว่าที่เคยมีเพศสัมพันธ์ด้วย ขณะที่เธอเล่าเรื่องราว Sergio เรียกมันว่า "เนยเป็ด" และบอก Naima ว่าเธอควรจะส่งกล่องให้เธอ ฉากที่ตรงตามลักษณะใบหน้า Naima ถูกฝังอยู่ในตูดของ Sergio ขณะที่เธอกินอาหารจากด้านหลัง ภาพยนตร์เรื่องนี้กล้าได้กล้าเสียติดอยู่ที่จมูกของคนอื่นไม่ได้

ภาพยนตร์เรื่องนี้กล้าได้กล้าเสียติดอยู่ที่จมูกของคนอื่นไม่ได้

มันลึกซึ้งกว่าเสียง ในช่วง 24 ชั่วโมงด้วยกันความสนิทสนมจะขยายตัวและทำสัญญา อารมณ์ความรู้สึกเข้าและออกจาก Naima และ Sergio เหมือนเมฆเป็นสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้และไม่สามารถอธิบายได้เนื่องจากสภาพอากาศ Shawn's Naima เป็นภาพที่ไม่ค่อยสบายใจในช่วงเวลาที่เห็นได้ชัดเจน (ในขณะที่ยังไม่โกหก) ในขณะที่ Sergio ของ Costa คือนักอุดมคติที่หุนหันพลันซึ่งแสดงตัวเองว่าเป็นคนติดยาเสพติดแห่งความซื่อสัตย์สุจริตและเปิดเผยจนเป็นสัญญาณว่าเธอไม่ได้อยู่ในหน้าเดียวกัน ชาร์ลี ความเบี่ยงเบนของแรงจูงใจอาจทดสอบความอดทนของผู้ชมบางส่วน แต่ฉันพบว่ามันสดชื่น ฉันไม่สามารถช่วยเปรียบเทียบ Duck Butter กับภาพยนตร์เกี่ยวกับเรื่องอื่นระหว่างผู้หญิงสองคนที่กำลังเปิดฉากในสัปดาห์นี้ด้วย Disobedience หากไม่มีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับชุมชนของชาวยิวออร์โธดอกซ์ในนอร์ ธ ลอนดอนที่แสดงให้เห็นว่าการ Disobedience เป็นประเภทของภาพยนตร์ที่คุณรู้ว่าตัวละครทุกตัวรู้สึกตลอดเวลา (จนกว่าจะมีข้อสรุปที่น่ากลัวซึ่งดูเหมือนว่าจะได้รับการวางแผนเพื่อรักษาชื่อภาพยนตร์ไว้) ) ในขณะที่มีข้อโต้แย้งที่ต้องทำเพื่อความเรียบง่ายและชัดเจน แต่อย่างไรก็ตามฉันรู้สึกเหมือนกำลังดูละครเมื่อเห็นการ Disobedience ไม่เช่นนั้นกับ Duck Butter ซึ่งรู้สึกเหมือนจริงมากขึ้น ความคลุมเครือของมันในความเป็นจริงเสริมสร้างความเป็นจริงของตัวเองเตือนเราว่ามีเพียงเล็กน้อย Naima และ Sergio รู้กันจริง ๆ และกระตุ้นให้เราสงสัยว่าคนที่รู้ได้ทุกคนเป็นอย่างไร