Laggies รักเราอย่าเต่าเลย (2014) [พากย์ไทย]

ในภาษาอังกฤษ “LAG” มีความหมายว่า “ช้า” หนังเรื่องนี้จึงชื่อ Laggies เพื่อสื่อถึงความเต่าของชีวิตนางเอกเมื่อเทียบกับบรรดากระต่ายทั้งหลายรอบตัวเธอ หนังมีคอนเซ็ปต์ที่ดี เนื้อหาน่าจะสะท้อนคนดูหลายคน โดยเฉพาะคนที่เรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วแต่ยังรู้สึกเคว้างคว้างในเส้นทางชีวิตของตนเอง และแอบคิดถึงชีวิตสมัยมัธยมซึ่งเป็นวัยที่สนุกสุดเหวี่ยงที่สุดแล้ว (รวมถึงเราก็เป็นหนึ่งในนั้น)

ในช่วงแรกของหนัง เราอาจจะอิจฉา Megan กับ Anthony ที่เป็นคู่รักมาราธอนที่คบกันมาเป็นสิบๆ ปีและยังคงความหวานกันได้อย่างดีประหนึ่งเพิ่งจะขอเป็นแฟนกันไปเมื่อวาน แต่ท้ายที่สุด หนังจะทำให้เราเข้าใจว่าทำไมคนหลายคนที่คบกันมานานและดูรักใคร่กันดี จู่ๆ ก็เลิกรากันไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

กล่าวคือ เราจะได้เข้าใจว่า ในโลกแห่งความเป็นจริง คนที่เคยรักกันและเข้ากันได้เมื่อสิบปีที่แล้ว ไม่ได้แปลว่าในตอนนี้…หรือในอีกสิบปียี่สิบปีข้างหน้า…จะยังเข้ากันได้ตลอดไป เพราะต่างคนต่างก็ต้องโตขึ้นทุกวันๆ ทั้งการดำเนินชีวิตและทัศนคติ ดังนั้น ไม่ว่าจะคบกันแบบเพื่อนหรือคบกันแบบแฟน ถ้าทั้งสองฝ่ายมันไม่ได้โตไปในทิศทางเดียวกันหรืออัตราเร่งเท่ากัน เขาอาจต้องแยกทางกันเมื่อถึงเวลา

ในส่วนของนักแสดง แรกเริ่มเดิมทีบท Megan จะตกเป็นของ Anne Hathaway แต่ตอนนั้นคิวของ Anne ชนกับเรื่อง Interstellar บทนี้จึงตกมาเป็นของ Keira Knightley ซึ่งถ้า Anne มาเล่นเป็น Megan จริงๆ เราก็คงได้เห็นสาววัย 28 ที่มีเงาโก๊ะๆ ของ Princess Mia (The Princess Diaries) ก็เป็นได้

Megan ในแบบฉบับของ Keira Knightley ก็น่าจะดูติสต์กว่าในแบบฉบับ Anne Hathaway แต่สำหรับเรา Megan ในแบบ Keira ก็น่ารัก เป็นธรรมชาติ และน่ามองดีอยู่แล้ว (แม้แต่ความพยายามใช้สำเนียงอเมริกันของเธอก็ยังดูเป็นธรรมชาติ) ดูแล้วเรานึกถึงเธอในหนังเรื่อง Begin Again จนอดคิดไม่ได้ว่า บางทีเธออาจจะเหมาะกับลุคเซอร์ๆ สบายๆ แบบนี้ มากกว่าใส่ชุดคอร์เซ็ตรัดนม (อันแบนราบ) อย่างในเรื่อง Pirates of the Caribbean, Anna Karenina หรือ The Duchess ก็เป็นได้

อย่างไรก็ตาม บท Megan ก็ไม่ได้ทำให้ Keira Knightley ได้แสดงความสามารถเท่าไหร่นัก แต่ยังดีที่ในปีนี้เเรายังมีโอกาสได้เห็นฝีไม้ลายมือทางการแสดงอย่างเต็มสูบของเธอในเรื่อง The Imitation Game ซึ่งสำหรับเรื่องนี้ ส่งให้เธอได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ทั้งของ Golden Globes และของตุ๊กตาทอง Oscars เลยทีเดียว

ส่วน Chloë Grace Moretz นั้น ถึงแม้บท Annika จะไม่ค่อยมีบทบาทเท่าที่เราคาดหวังก่อนเข้าไปดู แต่อื้อหือ~ Chloë ก็รับผิดชอบบทบาทของเธอได้ดีแบบไร้ที่ติ เราเห็นความสามารถที่โดดเด่นของเด็กคนนี้ ยิ่งโตก็ยิ่งเก่ง ยิ่งโตก็ยิ่งสวย เราเชื่อว่า Chloë จะไปได้ไกลมากในวงการนี้ เช่นเดียวกับนางเอกรุ่นพี่ของเธอ Keira Knightley

โดยรวม ถึงแม้ Laggies จะมีคอนเซ็ปต์ของบทที่ดี แต่หนังก็ยังขยี้จุดนั้นไม่พีคพอจนน่าจดจำเท่าไหร่ เพราะซับพล็อตเยอะเสียเหลือเกิน ไหนจะรักสามเส้าของ Megan, เรื่องเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อของ Annika, ชีวิตรักของพ่อของ Megan, ความสัมพันธ์ของ Annika กับแม่ ฯลฯ (โอ๊ย ตกลงคุณจะเอาอะไรกันแน่!) แล้ว “เต่า” น่ะ ถ้าจะใส่มาแค่นี้ อย่าใส่มาเลยดีกว่านะ สงสารเต่า…

สรุปง่ายๆ เอาตรงๆ สำหรับเรา Laggies ยังเป็นหนังเรื่อยๆ เต่าๆ สมกับชื่อหนัง เหมาะกับนอนเลื้อยดูที่บ้าน มากกว่าถ่อออกมาดูในโรงภาพยนตร์ และถึงแม้หนังจะทำให้เรารู้สึกอบอวลกับกลิ่นอายสมัยกระโปรงบานขาสั้นไปกับ Megan แต่หนังก็ให้คนดูแต่ความบันเทิง ไม่ได้ให้อะไรที่มากกว่านั้น

โอเค เราได้เห็นนางเอกกลับไปใช้ชีวิตแบบเด็กอย่างเต็มตัวอีกครั้ง แต่มันก็ไม่ใช่วิถีที่คนดูอย่างเราจะเอามาใช้ได้จริงอยู่ดีในกรณีที่เราก็อยากจะหลบหนีโลกอันโหดร้ายของผู้ใหญ่แบบเธอบ้าง อีกทั้งหนังยังไม่ได้ให้ข้อสรุปที่ชัดเจนด้วยว่า สรุปแล้ว Megan นางโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นได้อย่างไร นางเห็นอนาคตของตัวเองจากการเลือกผู้ชายที่ถูกคน กระนั้นหรือ?